Piyarat Mounpao
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 04:37:10 pm » |
|
น.ส.ปิยะรัตน์ เหมือนเผ่า เลขที่ 42 รหัส 115210904050-9 กลุ่ม02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาชีววิทยา สถานที่ สำนักวิทยบริการ วันที่ 28/01/54 เวลา 16.36 น. การทดลองของ (Michelson-Morley Experiment) ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
alongkorn hunbuathong
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 05:12:14 pm » |
|
นายอลงกรณ์ หุ่นบัวทอง รหัส 115330411026-1 เลขที่ 20 กลุ่ม 53341cve Sec 4 สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา วันที่ 28/1/54 เวลา 17.12 น . ณ บ้านบางชันวิลล่า เมื่อลำแสงเอกนรง ออกจากตำแหน่ง s ผ่านเลน l แล้วตกบนแผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา p แยกลำแสงออกเป็น 2แนว แนวที่ 1 จะทะลุผ่านกระจกเข้า หากระจกเงา m1 และแนวที่2 สะท้อนจากแผ่นกระจกเข้าหากระจกเงา m2 แนวที่1 หลังจากสะท้อนที่กระจกเงา m1 แล้วกลับที่แผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา สะท้อนบางส่วนเข้าสู่กล้องโทรทัศ t
|
|
|
|
kambio
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 07:19:34 pm » |
|
นางสาว นันทวัน มีชำนาญ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา ชีววิทยา sec. 02 เลขที่ 43 รหัส 115210904052-5 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 28 ม.ค. 2554 สถานที่ บ้าน เวลา 19.18 น.
ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
titikron
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 07:31:59 pm » |
|
นาย ฐิติกร แก้วประชา รหัส 115330411022-0 เลขที่ 17 sec 4 วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง วันที่ 28/01/54 เวลา 19.30 น. หอโฟร์บี มีความเห็น การทดลองของ (Michelson-Morley Experiment) ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
tongchai
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 08:42:23 pm » |
|
ผมนาย ธงชัย ฉิมสุด นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) sec 17 รหัส 115340441240-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 28มกราคม 2554 ณ หอพักโพธิ์ทอง เวลา 20.42 น
ตัวกำเนิดแสงเลเซอร์ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เหนือจากพื้นโต๊ะประมาณ 8-10 นิ้ว เปิดสวิทซ์ให้แสงเลเซอร์ฉายไปยังกระจกแยกลำแสง (BS) ซึ่งจะแยกลำแสงออกเป็น 2 แนว โดยลำแสงลำแรก ทะลุผ่านไปยังกระจก M2 ส่วนลำที่สองสะท้อนเป็นมุม 90 องศาไปยังกระจก M1 ระยะทางจากกระจก BS ไปยังกระจก M1 และ M2 เท่ากัน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
|
|
|
|
kittisap
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 09:15:20 pm » |
|
กระผม นายกิตติศัพท์ ถนัดงาน นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 28 มกราคม 2554 ที่ บ้าน ซอยพรธิสาร3 เวลา 21.15 น. ความคิดเห็นว่า L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
suppachok
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 11:51:11 pm » |
|
นาย ศุภโชค เปรมกิจ วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411051-9เลขที่ 44 sec 04 สถานที่ บ้าน วันที่ 28/1/2554 เวลา 23.52 น. ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นเครื่องมือวัดละเอียด อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ในระดับ จึงจะเกิดริ้วรอยแทรกสอดดังรูปได้ ถ้าคุณจับโต๊ะ จะทำให้โต๊ะเกิดการสั่นสะเทือน แม้เพียงเล็กน้อยโดยคุณไม่สามารถสังเกตเห็น ริ้วรอยแทรกสอดจะสั่นสะเทือนให้เห็นอย่างชัดเจน ดังนั้นเครื่องมือนี้จึงมีความไวมากในการวัดความสั่นสะเทือน สิ่งที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน มีหลายอย่างดังเช่น รถวิ่งผ่าน คนเดินผ่าน จานตกแตก หรือแม้แต่ลิฟท์ในตึกที่เคลื่อนที่ขึ้นและลง อุปกรณ์นี้ตรวจจับได้ทั้งสิ้น ถ้าคุณกำลังทดลองอยู่ และเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ แรงสั่นสะเทือนของลม ทำให้ริ้วเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแม้เพียงเล็กน้อย เช่นความร้อนจากมือ ทำให้ริ้วเคลื่อนไหวได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามให้คุณไขน๊อตของอุปกรณ์กับโต๊ะให้แน่น ผลของอุณหภูมิจะลดลง
|
|
|
|
Penprapa
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 12:13:23 pm » |
|
นางสาวเพ็ญประภา สุเพียร เลขที่ 40 รหัส 115210904029-3 กลุ่ม 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอบกระทู้เมื่อวันที่ 29 มค 54 เวลา 12.13 น. ณ วิทยะบริการ เมื่อลำแสงเอกนรง ออกจากตำแหน่ง s ผ่านเลน l แล้วตกบนแผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา p แยกลำแสงออกเป็น 2แนว แนวที่ 1 จะทะลุผ่านกระจกเข้า หากระจกเงา m1 และแนวที่2 สะท้อนจากแผ่นกระจกเข้าหากระจกเงา m2 แนวที่1 หลังจากสะท้อนที่กระจกเงา m1 แล้วกลับที่แผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา สะท้อนบางส่วนเข้าสู่กล้องโทรทัศ t
|
|
|
|
tum moment
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 12:35:56 pm » |
|
 นายกิติศักดิ์ รัตนมณี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา 53341CVE sec.4 รหัสประจำตัว 115330411027-9 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา วันที่ 29 มกราคม พศ.2554 ที่หอพักมณีโชติ เวลา 12.35น. ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อน จากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่าง บนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นเครื่องมือวัดละเอียด อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ในระดับ จึงจะเกิดริ้วรอยแทรกสอดดังรูปได้ ถ้าคุณจับโต๊ะ จะทำให้โต๊ะเกิดการสั่นสะเทือน แม้เพียงเล็กน้อยโดยคุณไม่สามารถสังเกตเห็น ริ้วรอยแทรกสอดจะสั่นสะเทือนให้เห็นอย่างชัดเจน
|
|
|
|
TanGMe
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 04:43:43 pm » |
|
นางสาวภัทรพร ผลอำไพ รหัสนักศึกษา 115110417062-6 เลขที่ 9 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 29 มกราคม 2554 เวลา 16.47 น. ที่หออยู่บ้านแมนชั่น ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
siwasit ridmahan
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 09:27:17 pm » |
|
นาย สิวะสิทธิ์ ฤทธิ์มะหันต์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัส 115340441244-3 เลขที่ 33 sec.17 เรียนกับ อาจารย์จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้ วันที่ 29 มกราคม 2554 เวลา 21.27น. ณ ร้านเน็ต
สรุปได้ว่า ....... ตัวกำเนิดแสงเลเซอร์ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เหนือจากพื้นโต๊ะประมาณ 8-10 นิ้ว เปิดสวิทซ์ให้แสงเลเซอร์ฉายไปยังกระจกแยกลำแสง (BS) ซึ่งจะแยกลำแสงออกเป็น 2 แนว โดยลำแสงลำแรก ทะลุผ่านไปยังกระจก M2 ส่วนลำที่สองสะท้อนเป็นมุม 90 องศาไปยังกระจก M1 ระยะทางจากกระจก BS ไปยังกระจก M1 และ M2 เท่ากัน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
|
|
|
|
rungarun
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 10:10:46 pm » |
|
นายรุ่งอรุณ แย้มประดิษฐ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ รหัส 115340441246-8 SEC 17 เลขที่ 36 เรียนกับ อาจารย์จรัส บุณยธรรมา วันที่ 29 มกราคม 2554 เวลา 22.10 น.
Interferometer ชนิดไมเคลสัน เป็นอุปกรณ์ทางแสงใช้วัดการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ได้ เช่นการเลื่อนตำแหน่งที่น้อยมากๆ ซึ่งใช้ศึกษาการสั่นไหว หรือจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นก็ได้ เช่นอุณหภูมิ ความเร็วในการไหลของอากาศ ความหนาของฟิล์มที่เคลือบกระจก สิ่งที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน มีหลายอย่างดังเช่น รถวิ่งผ่าน คนเดินผ่าน จานตกแตก หรือแม้แต่ลิฟท์ในตึกที่เคลื่อนที่ขึ้นและลง อุปกรณ์นี้ตรวจจับได้ทั้งสิ้น ถ้าคุณกำลังทดลองอยู่ และเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ แรงสั่นสะเทือนของลม ทำให้ริ้วเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแม้เพียงเล็กน้อย เช่นความร้อนจากมือ ทำให้ริ้วเคลื่อนไหวได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามให้คุณไขน๊อตของอุปกรณ์กับโต๊ะให้แน่น ผลของอุณหภูมิจะลดลง
|
|
|
|
pongpat
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 10:36:30 pm » |
|
กระผมนายพงษ์พัฒน์ น้อยโพธิ์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4 เลขที่ 51 รหัส 115330441207-1 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมาเข้ามาตอบกระทู้วันที่ 29 มกราคม 2554 ที่ บ้าน เวลา 22.36 น สรุปได้ว่า ....... ตัวกำเนิดแสงเลเซอร์ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เหนือจากพื้นโต๊ะประมาณ 8-10 นิ้ว เปิดสวิทซ์ให้แสงเลเซอร์ฉายไปยังกระจกแยกลำแสง (BS) ซึ่งจะแยกลำแสงออกเป็น 2 แนว โดยลำแสงลำแรก ทะลุผ่านไปยังกระจก M2 ส่วนลำที่สองสะท้อนเป็นมุม 90 องศาไปยังกระจก M1 ระยะทางจากกระจก BS ไปยังกระจก M1 และ M2 เท่ากัน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
|
|
|
|
nachaya
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 10:39:48 pm » |
|
ผมนาย ณชย ประสพเนตร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ sec 4 เลขที่ 49 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 29 มกราคม 2554 เวลา 22.40 น. ที่ บ้าน เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา มีความคิดเห็นว่า
ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
suradet phetcharat
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 07:58:27 am » |
|
นายสุรเดช เพ็ชรรัตน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา CVE2 Sec17 เลขที่ 9 รหัส 115340411115-1 ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 30 มกราคม 2554 เวลา 07.58 น.Office สำนักงานบริษัทไทยวัฒน์ ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
Kunlaya
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 09:23:31 am » |
|
นางสาวกัลยา เปรมเปรย นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ sec 2 เลขที่ 33 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 30 มกราคม 2554 เวลา 09.20 น. ที่ หอพัก เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา มีความคิดเห็นว่า
ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
Utchima
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 06:52:51 pm » |
|
นางสาวอัจจิมา แขกสะอาด นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยการคอมพิวเตอร์ รหัส 115110905096-3 sec.02 เลขที่23 เรียนกับ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้เมื่อ 30/01/54 สถานที่ บ้าน เวลา 18.52 น.
เมื่อลำแสงเอกนรง ออกจากตำแหน่ง s ผ่านเลน l แล้วตกบนแผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา p แยกลำแสงออกเป็น 2แนว แนวที่ 1 จะทะลุผ่านกระจกเข้าหากระจกเงา m1 และแนวที่2 สะท้อนจากแผ่นกระจกเข้าหากระจกเงา m2 แนวที่1 หลังจากสะท้อนที่กระจกเงา m1 แล้วกลับที่แผ่นแก้วครึ่งกระจกเงาสะท้อนบางส่วนเข้าสู่กล้องโทรทัศ t
|
|
|
|
jackmaco
|
 |
« ตอบ #47 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 07:19:28 pm » |
|
นายธีรพงษ์ ม้วนทอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441211-2 ตอบกระทู้วันที่ 30/01/54 เวลา 19:19 น. สถานที่ หอ เอื้อมเดือน สรุป : เมื่อลำแสงเอกนรง ออกจากตำแหน่ง s ผ่านเลน l แล้วตกบนแผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา p แยกลำแสงออกเป็น 2แนว แนวที่ 1 จะทะลุผ่านกระจกเข้า หากระจกเงา m1 และแนวที่2 สะท้อนจากแผ่นกระจกเข้าหากระจกเงา m2 แนวที่1 หลังจากสะท้อนที่กระจกเงา m1 แล้วกลับที่แผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา สะท้อนบางส่วนเข้าสู่กล้องโทรทัศ t
|
|
|
|
hatorikung_nutt
|
 |
« ตอบ #48 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 08:41:47 pm » |
|
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศศรี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่19 รหัสประจำตัว115340441209-6 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 30/01/54 เวลา20.41 ณ หอพักวงษ์จินดา สรุปว่า เนื่องจากเป็นเครื่องมือวัดละเอียด อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ในระดับ จึงจะเกิดริ้วรอยแทรกสอดดังรูปได้ ถ้าคุณจับโต๊ะ จะทำให้โต๊ะเกิดการสั่นสะเทือน แม้เพียงเล็กน้อยโดยคุณไม่สามารถสังเกตเห็น ริ้วรอยแทรกสอดจะสั่นสะเทือนให้เห็นอย่างชัดเจน ดังนั้นเครื่องมือนี้จึงมีความไวมากในการวัดความสั่นสะเทือน
|
|
|
|
satawat
|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 08:48:12 pm » |
|
นายศตวรรษ รัตนภักดี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ sec 2 เลขที่ 34 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 30 มกราคม 2554 เวลา 20.47 น. ที่ หอพัก เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ตัวกำเนิดแสงเลเซอร์ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เหนือจากพื้นโต๊ะประมาณ 8-10 นิ้ว เปิดสวิทซ์ให้แสงเลเซอร์ฉายไปยังกระจกแยกลำแสง (BS) ซึ่งจะแยกลำแสงออกเป็น 2 แนว โดยลำแสงลำแรก ทะลุผ่านไปยังกระจก M2 ส่วนลำที่สองสะท้อนเป็นมุม 90 องศาไปยังกระจก M1 ระยะทางจากกระจก BS ไปยังกระจก M1 และ M2 เท่ากัน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
|
|
|
|
Sirilak
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 08:50:30 pm » |
|
นางสาวสิริลักษณ์ ศัพสุข เลขที่30 sec.02 รหัส115210417064-0 เรียนกับ อ.จรัส บุณยธรรมา วันที่30 มกราคม 2554 เวลา20.50น.
สรุปได้ว่า L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
chinnapot
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 11:34:00 pm » |
|
นายชินพจน์ เดชเกษรินทร์ คณะ วิศวกรรมอุตสาหการ-การจักการ รหัส 115340441238-5 sec17 วันที่30/01/54 เวลา23.34 ณ ทรัพย์ถาวรอพาร์ทเม้นท์
ตัวกำเนิดแสงเลเซอร์ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เหนือจากพื้นโต๊ะประมาณ 8-10 นิ้ว เปิดสวิทซ์ให้แสงเลเซอร์ฉายไปยังกระจกแยกลำแสง (BS) ซึ่งจะแยกลำแสงออกเป็น 2 แนว โดยลำแสงลำแรก ทะลุผ่านไปยังกระจก M2 ส่วนลำที่สองสะท้อนเป็นมุม 90 องศาไปยังกระจก M1 ระยะทางจากกระจก BS ไปยังกระจก M1 และ M2 เท่ากัน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
|
|
|
|
sathian757
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 12:46:49 am » |
|
นายเสถียร ปานามะเส คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441203-9 ตอบกระทู้วันที่ 31/01/54 เวลา 00:46น. สถานที่ หอพัก นวนคร สรุปว่า L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
iinuyashaa
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 08:47:51 am » |
|
นางสาววิภวานี แสงทอง นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเคมี sec 02 รหัส 115210902118-6 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 31/1/2554 ที่บ้าน เวลา 8:47 น.
สรุปได้ว่า
การทดลองของ (Michelson-Morley Experiment)
ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก
โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3x108 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
Jutamat
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:42:06 pm » |
|
น.ส. จุฑามาศ เชื้ออภัย นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี sec.02 เลขที่ 44 รหัสนักศึกษา 115210904056-6 ผู้สอน อาจารย์จรัส บุญยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 31/01/54 ณ หอพักสวัสดิการนักศึกษา มทร.ธัญบุรี เวลา 13.42 น. สรุปว่า
เมื่อลำแสงเอกนรง ออกจากตำแหน่ง s ผ่านเลน l แล้วตกบนแผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา p แยกลำแสงออกเป็น 2แนว แนวที่ 1 จะทะลุผ่านกระจกเข้าหากระจกเงา m1 และแนวที่2 สะท้อนจากแผ่นกระจกเข้าหากระจกเงา m2 แนวที่1 หลังจากสะท้อนที่กระจกเงา m1 แล้วกลับที่แผ่นแก้วครึ่งกระจกเงาสะท้อนบางส่วนเข้าสู่กล้องโทรทัศ t
|
|
|
|
thanathammarat
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:46:28 pm » |
|
นายปรัชญาพล ธนาธรรมรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่ 14 รหัสประจำตัว115340441204-7 ตอบกระทู้วันที่ 31-01-2554 เวลา 13:46 น. สถานที่ บริษัท Siam lemmerz เนื้อหาสรุปได้ว่า... เมื่อลำแสงเอกนรงค์ ออกจากตำแหน่ง s ผ่านเลน l แล้วตกบนแผ่นแก้วครึ่งกระจกเงา p แยกลำแสงออกเป็น 2แนว - แนวที่ 1 จะทะลุผ่านกระจกเข้าหากระ จกเงา m1 - แนวที่2 สะท้อนจากแผ่นกระจกเข้าหากระจกเงา m2 แนวที่1 หลังจากสะท้อนที่กระจกเงา m1 แล้วกลับที่แผ่นแก้วครึ่งกระจกเงาสะท้อนบางส่วนเข้าสู่กล้องโทรทัศ t
|
|
|
|
ronachai
|
 |
« ตอบ #56 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 03:48:00 pm » |
|
นาย รณชัย รุกขวัฒน์ วิศวกรรมโยธา 115330411002-2 sce 4 กะทู้เมื่อ วันที่ 31 มกราคม 2554 เวลา 15.48 น. ณ ห้องสมุดมหาลัย มีความคิดเห็นว่า ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อน จากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่าง บนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นเครื่องมือวัดละเอียด อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอยู่ในระดับ จึงจะเกิดริ้วรอยแทรกสอดดังรูปได้ ถ้าคุณจับโต๊ะ จะทำให้โต๊ะเกิดการสั่นสะเทือน แม้เพียงเล็กน้อยโดยคุณไม่สามารถสังเกตเห็น ริ้วรอยแทรกสอดจะสั่นสะเทือนให้เห็นอย่างชัดเจน
|
|
|
|
chatchai
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 03:58:32 pm » |
|
กระผม นาย ฉัตรชัย กล่อมเกลี้ยง นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441232-8 เลขที่ 28 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 31 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 15.58 น. สถานที่ หอพัก 4B
สรุปว่า
ออกเป็น 2 แนว โดยลำแสงลำแรก ทะลุผ่านไปยังกระจก M2 ส่วนลำที่สองสะท้อนเป็นมุม 90 องศาไปยังกระจก M1 ระยะทางจากกระจก BS ไปยังกระจก M1 และ M2 เท่ากัน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น
|
|
|
|
m_japakiya
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 05:17:06 pm » |
|
การทดลองของ (Michelson-Morley Experiment) นาย มูฮำหมัดนาวี จะปะกียา เลขที่ 2 sec 17 รหัส 115340411104-5 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชา วิศวกรรมโยธา ณ บ้าน จรัญสนิทวงศ์ 31-01-54 เวลา 17.16 น. เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ง่ายขึ้น L = แสงเลเซอร์; DL = เลนส์เว้า ; BS = กระจกแยกแสง; M1 = กระจก M1; M2 = กระจก M2; S = ฉาก โต๊ะจะหมุน เมื่อวางเมาส์ลงบนทรงกลมซ้าย และค้างไว้ หรือคลิกเมาส์ที่ทรงกลมกลาง โต๊ะหมุนตามเข็มนาฬิกา และ คลิกเมาส์ที่ทรงกลมขวา โต๊ะหมุนทวนเข็มนาฬิกา การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3*10 8 เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
bobo
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 06:11:10 pm » |
|
นางสาว สุนิสา หมอยาดี sec.2 เลขที่74 รหัสนักศึกษา 115310903055-7 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ วันที่31ม.ค.54 เวลา18.11น. ที่บ้าน ลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M1 ผ่านกระจกแยก BS และทะลุผ่านไปยังฉาก S ส่วนลำแสงที่สะท้อนจากกระจก M2 ไปที่กระจกแยก BS และสะท้อนไปที่ฉาก S เกิดการแทรกสอดเป็นริ้วรอยมืดสว่างบนฉาก S เลนส์ DL ช่วยขยายริ้วรอยแทรกสอดให้มีขนาดใหญ่ การทดลองของไมเคิลสันและมอร์เลย์ พิสูจน์ได้ดังนี้ 1.คลื่นแสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วcมีค่าเท่ากับ3x10 8เมตร/วินาที 2.ถ้าวัตถุที่เคลื่อนที่นี้เป็นโลก เราจะต้องหาความเร็วสัมบูรณ์ของโลกผ่านอีเทอร์โดยการวัดสัญญาณแสงที่กระจายผ่านอีเทอร์
|
|
|
|
|