pichet
|
 |
« ตอบ #120 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 11:54:31 pm » |
|
นายพิเชษฐ์ จันทร์โสภา รหัส 115330411044-4 sec 4 cve 53341 2/12/53 เวลา 11:54 pm แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน กาแฟลซทำได้ง่ายๆโดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้รต่อนภายในหลอดไฟแฟลซบรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น(Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอมทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น(ionization)
|
|
|
|
pitak
|
 |
« ตอบ #121 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:01:14 am » |
|
นายพิทักษ์ นงนวล รหัส 115330411018-8 sec 04 เลขที่ 15 ตอบกระทู้ที่ สวนสุทธิพันธ์ วันที่ 02/12/2553 เวลา 24.00 น. สรุปได้ว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้วและแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมาเพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
udomporn
|
 |
« ตอบ #122 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:22:22 am » |
|
นาย อุดมพร พวงสุวรรณ รหัส115330411025-3 เลขที่19 กลุ่ม53341cve sec04 กระทู้วันที่ 03/12/2553 เวลา 00.20น. ที่หอ ลากูล
แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Pathomphong
|
 |
« ตอบ #123 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:51:15 am » |
|
นายปฐมพงศ์ พูนปก 115330411043-6 วิศวกรรมโยธา sec.04 วันที่ 3/12/53 เวลา 00.52 หอลากูน เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา สรุปได้ดังนี้ แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
mongkhonphan
|
 |
« ตอบ #124 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 12:56:15 am » |
|
นายมงคลพันธ์ แซ่หลี วิศวกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411039-4 sec 04 เลขที่ 32 ตอบกระทู้วันที่ 3/12/53 เวลา 0.50 ที่หอลากูน แฟลซซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป คือการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด สวิทซ์เปิดไฟแฟลซต่อเข้ากับชัตเตอร์ เมื่อกดชัตเตอร์ ตัวเก็บประจุจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับหม้อแปลงชุดที่สอง (secondary transformer) ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันจาก 200 โวลต์ของตัวเก็บประจุ เป็น 1000 ถึง 4000 โวลต์ และส่งแรงดันไฟฟ้านี้ไปที่แผ่นกระตุ้น ทำการกระตุ้นให้ก๊าซซีนอนเกิดการอิออไนท์ และนำไฟฟ้า เกิดแสงวาบขึ้น
เพิ่มแรงดันขึ้นต้องมีวงจรไฟฟ้าเพิ่มแรงดันของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ประกอบด้วย - ตัวเก็บประจุ มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของประจุไฟฟ้าไว้ภายใน - ตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้า มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของสนามแม่เหล็กไว้ในขดลวด - ไดโอด ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ มีหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ทางเดียว - ทรานซิสเตอร์ ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ ทำหน้าที่เหมือนสวิทซ์ และขยายสัญญาณทางไฟฟ้า
|
|
|
|
kangsachit
|
 |
« ตอบ #125 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 04:17:23 am » |
|
นายกังสชิต จิโน นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา รหัส 115330411017-0 เลขที่ 14 Sec 4 ตอบกระทู้งวันที่ 3/12/53 เวลา 4.17 น. ที่หอมาลีแมนชั่น ระบบการทำงานของแฟลช แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ - แบตเตอรี่ คือ คลังเก็บประจุขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ - หลอดไฟแฟลซ คือ หลอดไฟที่ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว - วงจรไฟฟ้า คือ ระบบ Control การทำงานของวงจร ภายในหลอดไฟแฟลชจะบรรจุก๊าชซีนอน ที่มีขั้วที่หลอด 2 ขั้ว คือประจุบวก (+) , ประจุลบ (-) โดยใช้หลักการไหลของอิเล็กตรอนอย่างอิสระ ให้เคลื่อนที่ชนเข้ากับอะตอมของก๊าชซีนอน จนทำให้ เกิดพลังงาน หรือ แสงออกมา
|
|
|
|
sangtawee
|
 |
« ตอบ #126 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 04:44:25 am » |
|
นายแสงทวี พรมบุตร รหัส 115330411035-2 เลขที่ 29 sec04 สาขาวิศวกรรมโยธา วันที่ 03/12/53 เวลา 04:45 น. สถานที่ หอพัก FourB5 แฟรชทำงานสอดคล้องกับชัดเตอร์ของกล้องถ่ายรูปซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.แบตเตอรี่ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงาน 2.หลอดไฟแฟรชให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้าควบคุมการทำงาน การต่อแฟรซทำง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟรซบรรจุก๊าซนีออนมีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้วและแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด และเมื่อมีการไหลของอิเล็กตรอนอิสระซึ่งไหลผ่านหลอดแก้วที่บรรจุก๊าซจากขั่วหนึ่งไปอีกขั่วหนึ่ง ขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่มันก็เข้าไปชนกับอะตอมของนีออนและทำให้อะตอมปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตอนหรือแสงออกมา
|
|
|
|
wuttipong
|
 |
« ตอบ #127 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 05:41:12 am » |
|
นายวุฒิพงษ์ สุขะ เลขที่ 23 sec 04 รหัส 115330411029-5 สาขาวิศวกรรมโยธา วันที่ 03/12/53 เวลา 05:40 น. สถานที่ หอพักFourB5
สรุปได้ดังนี้ แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
อภิรักษ์
|
 |
« ตอบ #128 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2010, 10:21:37 am » |
|
นายอภิรักษ์ มีศิลป์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม เวลา 22:21 น. ที่หอพัก AP แมนชั่น มีความคิดเห็นว่า แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้องให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
narongdach
|
 |
« ตอบ #129 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2010, 03:44:06 am » |
|
กระผมนายณรงค์เดช เพ็งแจ่ม นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ)sec 17 เลขที่ 25 รหัส 115340441220-3 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมาเข้ามาตอบกระทู้วันที่ 5 ธันวาคม 2553 ที่ อพาร์ทเม้นเอกภาคย์ เมืองเอก เวลา 03.35 น สรุปได้ว่า 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำ งานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด 
|
|
|
|
jackmaco
|
 |
« ตอบ #130 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2010, 11:45:19 pm » |
|
นายธีรพงษ์ ม้วนทอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441211-2 ตอบกระทู้วันที่ 06/12/53 เวลา 23:45 น. สถานที่ หอพัก Rohm
สรุป : แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน กระแสไฟฟ้าคือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดแก้วที่บรรจุก๊าซ จากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง ขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่มันจะชนเข้ากับอะตอมของซีนอนและทำให้อะตอมปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตอนหรือแสงออกมา
|
|
|
|
tongchai
|
 |
« ตอบ #131 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 12:18:29 am » |
|
ผมนาย ธงชัย ฉิมสุด นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) sec 17 รหัส 115340441240-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 7 ธันวาคม 2553 ณ หอพักโพธิ์ทอง เวลา 00.20 น
แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
bankclash032
|
 |
« ตอบ #132 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 06:09:10 pm » |
|
นาย สุริยพงศ์ ทองคำ นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ - การจัดการ (สมทบ)sec 17 รหัสประจำตัว 115340441221-1 เลขที่ 24 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 7 เดือน 12 พศ 2553 ที่ หอประสงค์ก้าวหน้า เวลา18.08 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำ งานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
chatchai
|
 |
« ตอบ #133 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 02:07:16 pm » |
|
นาย ฉัตรชัย กล่อมเกลี้ยง คณะ วิศวกรรมศาสตร์ สาขา วิศวกรรมอุตสาหการ – การจัดการ เลขที่ 28 รหัส 115340441232-8 sec17 วันที่ 9 เดือน 12 พ.ศ. 2533 ทำที่ หอ โฟร์บี2 เวลา 14.07
แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
moso003
|
 |
« ตอบ #134 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 03:40:49 pm » |
|
นาย ชินดนัย ใจดี นักศึกษาคณะ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชา คณิตศาสตร์ รหัสนักศึกษา 115110901089-2 sec 02 เลขที่ 12 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา วันที่ 09/12/2553 สถานที่ บ้านพัก เวลา 15.40 น.
1) แบตเตอรี่ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2) หลอดไฟแฟลซให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3) วงจรไฟฟ้าควบคุมการทำงาน
ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
somphoch
|
 |
« ตอบ #135 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 04:39:37 pm » |
|
กระผมนายสมโภชน์ จิกกรีนัย รหัส 115340441247-6 เลขที่ 34 sec.17 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอุตสาหการ-การจัดการ วันที่ 09/12/53 เวลา 16.40 น. ที่หอ แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้องให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Monthon
|
 |
« ตอบ #136 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 10:36:56 pm » |
|
กระผม นายมณฑล รินชุมภู นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441206-2 เลขที่ 17 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 09 เดือน ธันวาคม พศ.2553 เวลา 22:36 น. สถานที่ บ้านพักที่วังน้อย แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
opisit
|
 |
« ตอบ #137 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 10:51:14 pm » |
|
กระผม นาย พิสิทธิ์ สอนเทศ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441207-0 เรียนกับอาจารย์ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรม เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 10 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2553 ที่บ้าน เวลา 10:49 pm มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ จากการทำงานจะเห็นได้ว่า ระบบการทำงาน จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.) แบตเตอรี่ คือ คลังเก็บประจุขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.) หลอดไฟแฟลซ คือ หลอดไฟที่ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.) วงจรไฟฟ้า คือ ระบบ Control การทำงานของวงจร ภายในหลอดไฟแฟลชจะบรรจุก๊าชซีนอน ที่มีขั้วที่หลอด 2 ขั้ว คือประจุบวก ประจุลบ โดยใช้หลักการไหลของอิเล็กตรอนอย่างอิสระ ให้เคลื่อนที่ชนเข้ากับก๊าชซีนอน จนทำให้ เกิดพลังงาน หรือ แสงออกมา
|
|
|
|
THANAKIT
|
 |
« ตอบ #138 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 02:06:05 pm » |
|
นายธนกฤต เฉื่อยฉ่ำ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัส 115340441248-4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 ธันวาคม 2553 ที่ บ้าน เวลา14.06 แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน ภาย ในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด กระแสไฟฟ้าคือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดแก้วที่บรรจุก๊าซ จากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง ขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่มันจะชนเข้ากับอะตอมของซีนอนและทำให้อะตอม ปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตอนหรือแสงออกมา
|
|
|
|
rungarun
|
 |
« ตอบ #139 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 03:31:33 pm » |
|
รุ่งอรุณแย้มประดิษฐ์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัส 115340441246-8 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่11 ธันวาคม 2553 ที่ หอ เวลา15.31 แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
ยุพารัตน์ หยิบยก
|
 |
« ตอบ #140 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 07:46:48 pm » |
|
นางสาวยุพารัตน์ หยิบยก นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคณิตศาสตร์ sec2 รหัสประจำตัว 115110901011-6 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา
ระบบการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
siwasit ridmahan
|
 |
« ตอบ #141 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 07:54:19 pm » |
|
กระผมนาย สิวะสิทธิ์ ฤทธิ์มะหันต์ นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ ภาคสมทบ Sec.17 รหัสนักศึกษา 115340441244-3 เรียนกับอาจาร์ย จรัส บุณยธรรมา วันที่ 11 ธันวาคม พศ.2553 ที่หอพักเฉลิมพล เวลา19.54 น.
แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น
|
|
|
|
lor_lexCVE2
|
 |
« ตอบ #142 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 09:03:19 pm » |
|
นายสุรพงษ์ จำปานาค นักศึกษาคณะวิศกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา sec 17 เลขที่ 5 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้ เมื่อ 11/12/53 เวลา 21.03 น. ที่หอพักราชมงคล
การทำงานของเเฟลซเเบ่งออกเป็น3ส่วนคือ 1) แบตเตอรี่ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2) หลอดไฟแฟลซให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3) วงจรไฟฟ้าควบคุมการทำงาน
|
|
|
|
suradet phetcharat
|
 |
« ตอบ #143 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 09:59:09 pm » |
|
นายสุรเดช เพ็ชรรัตน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา CVE2 Sec17 เลขที่ 9 รหัส 115340411115-1 ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 ธันวาคม 2553 เวลา 21.58 น.Office สำนักงานบางนา คือการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด สวิทซ์เปิดไฟแฟลซต่อเข้ากับชัตเตอร์ เมื่อกดชัตเตอร์ ตัวเก็บประจุจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับหม้อแปลงชุดที่สอง (secondary transformer) ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันจาก 200 โวลต์ของตัวเก็บประจุ เป็น 1000 ถึง 4000 โวลต์ และส่งแรงดันไฟฟ้านี้ไปที่แผ่นกระตุ้น ทำการกระตุ้นให้ก๊าซซีนอนเกิดการอิออไนท์ และนำไฟฟ้า เกิดแสงวาบขึ้น
เพิ่มแรงดันขึ้นต้องมีวงจรไฟฟ้าเพิ่มแรงดันของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ประกอบด้วย - ตัวเก็บประจุ มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของประจุไฟฟ้าไว้ภายใน - ตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้า มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของสนามแม่เหล็กไว้ในขดลวด - ไดโอด ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ มีหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ทางเดียว - ทรานซิสเตอร์ ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ ทำหน้าที่เหมือนสวิทซ์ และขยายสัญญาณทางไฟฟ้า
|
|
|
|
Prachija
|
 |
« ตอบ #144 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 12:56:30 am » |
|
กระผม นาย ประชิด จันทร์พลงาม นักศึกษาคณะ วิศวกรรมโยธา sec 17 รหัสประจำตัว 115340411110-2 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 18 เดือน ธันวาคม พศ 2553 ที่ บ้านพัก เวลา 24.56 น. มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น 3 ส่วนคือ 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอนมีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่งเมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
amnuay cve2
|
 |
« ตอบ #145 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 01:05:23 am » |
|
กระผมนาย อำนวย เกิดโภคา นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา SEC 17 เลขที่ 10 รหัส 115340411116-9 อาจารย์ผู้สอน ผศ. จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 12/12/2553 ที่บ้าน เวลา 01.05 น. แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป คือการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด สวิทซ์เปิดไฟแฟลซต่อเข้ากับชัตเตอร์ เมื่อกดชัตเตอร์ ตัวเก็บประจุจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับหม้อแปลงชุดที่สอง (secondary transformer) ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันจาก 200 โวลต์ของตัวเก็บประจุ เป็น 1000 ถึง 4000 โวลต์ และส่งแรงดันไฟฟ้านี้ไปที่แผ่นกระตุ้น ทำการกระตุ้นให้ก๊าซซีนอนเกิดการอิออไนท์ และนำไฟฟ้า เกิดแสงวาบขึ้นเพิ่มแรงดันขึ้นต้องมีวงจรไฟฟ้าเพิ่มแรงดันของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ประกอบด้วย - ตัวเก็บประจุ มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของประจุไฟฟ้าไว้ภายใน - ตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้า มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของสนามแม่เหล็กไว้ในขดลวด - ไดโอด ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ มีหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ทางเดียว - ทรานซิสเตอร์ ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ ทำหน้าที่เหมือนสวิทซ์ และขยายสัญญาณทางไฟฟ้า
|
|
|
|
m_japakiya
|
 |
« ตอบ #146 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 04:30:57 am » |
|
นายมูฮำหมัดนาวี จะปะกียา เลขที่ 2 sec 17 รหัส 115340411104-5 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา ตอบกระทู้วันที่ 12/12/53 เวลา4.26 น. บ้านจรัญสนิทวงศ์ แฟลตทำงานสอดคล้องกับแบตเตอรี่ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1. แบตเตอรี่ขนาดเล็ก ทำหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลต 2. หลอดไฟแฟลต ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3 วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน ภายในหลอดไฟแฟลต บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด2ขั้วและแผ่นกระตุ้นวางไว้ข้างหลอด กระแสไฟฟ้าคือ การไหลของอิเล็กตรอนอิสระซึ่งไหลผ่านหลอดแก้วบรรจุก๊าซจากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่งขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่ชนกับอะตอมของซีนอนและทำให้อะตอมปล่อยพลังงานเป็นโฟรตอนหรือแสงออ
|
|
|
|
sarayut
|
 |
« ตอบ #147 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 11:12:49 am » |
|
นายศรายุทธ เที่ยงแท้ วิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา รหัส 11533041101-4 sec 4 เลขที่ 1 ตอบกระทู้วันที่ 29/11/53 เวลา 11.12 pm แฟลซซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป คือการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด สวิทซ์เปิดไฟแฟลซต่อเข้ากับชัตเตอร์ เมื่อกดชัตเตอร์ ตัวเก็บประจุจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับหม้อแปลงชุดที่สอง (secondary transformer) ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันจาก 200 โวลต์ของตัวเก็บประจุ เป็น 1000 ถึง 4000 โวลต์ และส่งแรงดันไฟฟ้านี้ไปที่แผ่นกระตุ้น ทำการกระตุ้นให้ก๊าซซีนอนเกิดการอิออไนท์ และนำไฟฟ้า เกิดแสงวาบขึ้น
เพิ่มแรงดันขึ้นต้องมีวงจรไฟฟ้าเพิ่มแรงดันของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ประกอบด้วย - ตัวเก็บประจุ มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของประจุไฟฟ้าไว้ภายใน - ตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้า มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของสนามแม่เหล็กไว้ในขดลวด - ไดโอด ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ มีหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ทางเดียว - ทรานซิสเตอร์ ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ ทำหน้าที่เหมือนสวิทซ์ และขยายสัญญาณทางไฟฟ้า
|
|
|
|
aek cve rmutt
|
 |
« ตอบ #148 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2010, 08:06:58 pm » |
|
ผมนายเอกชัย เสียงล้ำ นักศึกษาวิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง sec 4 รหัส 115330411046-9 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 15 ธันวาคม 2553 เวลา 20.08 น. ณ หอโฟบี 5
ระบบการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้องให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
sodiss
|
 |
« ตอบ #149 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2010, 09:52:48 pm » |
|
นายธรรมนันท์ เหมือนทิพย์ รหัส115210441248-9 sec.02 เลขที่ 27 วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ วันที่ 15/12/53 เวลา 21.52 น. ที่ หอบ้านดวงพร แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) แบตเตอรี่ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2) หลอดไฟแฟลซให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3) วงจรไฟฟ้าควบคุมการทำงาน การต่อไฟแฟลซทำได้โดยการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น
|
|
|
|
|