soawanee
|
 |
« ตอบ #90 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 01:54:20 pm » |
|
นางสาวเสาวณีย์ อนันต์ เลขที่ 66 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ รหัส 1153109030532 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 02/12/2553 เวลา 13.51ณ.ห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นกระตุ้นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้า หน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือ ให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอม ทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น (ionization)
|
|
|
|
00sunisa00
|
 |
« ตอบ #91 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 01:58:40 pm » |
|
น.ส.สุนิศา ชมมิ sec2 เลขที่ 40 115310903001-1 สาขาวิชาสถิติประยุกต์ วัน 2/12/53 เวลา 13.58 ที่ ห้องสมุด แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
ronachai
|
 |
« ตอบ #92 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 02:00:33 pm » |
|
ผม นาย รณชัย รุกขวัฒน์ วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411002-2 sce 4 กะทู้เมื่อ วันที่ 2 ธันวาคม 2553 เวลา 14.00 น. ณหอพัก ระบบการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้องให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Thatree Srisawat
|
 |
« ตอบ #93 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 02:23:47 pm » |
|
นายธาตรี ศรีสวัสดิ์ คณะวิทยาศาสร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ รหัส115310906029-9 เลขที่71 เวลา14.24น. วันที่2/12/2553 สถานที่banoffee sec02 สรุป ระบบการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Survivor666
|
 |
« ตอบ #94 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 02:46:29 pm » |
|
นายสร้างสรรค์ วงศ์ฉลาด sec.02 รหัสนักศึกษา 115110905018-7 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ตอบกระทู้เมื่อ 02/12/53 ที่ หอพักอยู่เจริญแมนชั่นเวลา14.46
แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด กระแสไฟฟ้าคือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดแก้วที่บรรจุก๊าซ จากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง ขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่มันจะชนเข้ากับอะตอมของซีนอนและทำให้อะตอมปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตอนหรือแสงออกมา
|
|
|
|
namtan
|
 |
« ตอบ #95 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 02:54:32 pm » |
|
ดิฉัน นางสาวณัชชา ธิติบุญจันทร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอาหาร sec02 รหัสประจำตัว115210417055-8 เลขที่ 21 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2553 ที่หอพักโอนิน3 เวลา 14.54น. ความรู้จากเนื้อหาที่ได้คือ แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อไฟแฟลซทำงานได้ง่ายโดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น
|
|
|
|
sarayut sringam
|
 |
« ตอบ #96 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 03:13:29 pm » |
|
กระผมนายศรายุธ สีงาม นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4 รหัส 115330441201-4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 ที่ ตึกวิทยบริการ เวลา 15.13น มีความคิดเห็นว่า แฟลซซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป คือการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด สวิทซ์เปิดไฟแฟลซต่อเข้ากับชัตเตอร์ เมื่อกดชัตเตอร์ ตัวเก็บประจุจะถูกเชื่อมต่อเข้ากับหม้อแปลงชุดที่สอง (secondary transformer) ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันจาก 200 โวลต์ของตัวเก็บประจุ เป็น 1000 ถึง 4000 โวลต์ และส่งแรงดันไฟฟ้านี้ไปที่แผ่นกระตุ้น ทำการกระตุ้นให้ก๊าซซีนอนเกิดการอิออไนท์ และนำไฟฟ้า เกิดแสงวาบขึ้น
เพิ่มแรงดันขึ้นต้องมีวงจรไฟฟ้าเพิ่มแรงดันของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ประกอบด้วย - ตัวเก็บประจุ มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของประจุไฟฟ้าไว้ภายใน - ตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้า มีหน้าที่กักเก็บพลังงานของสนามแม่เหล็กไว้ในขดลวด - ไดโอด ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ มีหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ทางเดียว - ทรานซิสเตอร์ ทำขึ้นจากสารกึ่งตัวนำ ทำหน้าที่เหมือนสวิทซ์ และขยายสัญญาณทางไฟฟ้า
|
|
|
|
assadawut
|
 |
« ตอบ #97 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 03:34:52 pm » |
|
กระผมนายอัษฎาวุฒิ ลำพา วิศวกรรมอุตสาหการ sec4 115330441202-2 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 ที่ บ้าน เวลา 15.35 น
ความคิดเห็นว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ
1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นกระตุ้นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้า หน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือ ให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอม ทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น (ionization)
|
|
|
|
Biwtiz
|
 |
« ตอบ #98 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 03:44:45 pm » |
|
น.ส กชพรรณ นาสวาสดิ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติ รหัสนักศึกษา 11310903036-7 เลขที่ 53 sec 02 ตอบกระทู้วันที่ 2 ธ.ค 53 เวลา 15.45น. สถานที่ บ้าน แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆโดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซบรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น(Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอมทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น(ionization)
|
|
|
|
Suphakorn
|
 |
« ตอบ #99 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 04:00:38 pm » |
|
กระผมนาย สุภากร หงษ์โต นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441211-3 Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 เวลา 16.00 น. ที่หอพัก gooddream มีความคิดเห็นว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นกระตุ้นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้า หน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือ ให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอม ทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น (ionization)
|
|
|
|
thabthong
|
 |
« ตอบ #100 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 05:24:44 pm » |
|
กระผมนายรัตชานนท์ ทับทอง นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 ที่ ตึกวิทยบริการ เวลา 17.24 น การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
civil kang
|
 |
« ตอบ #101 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 05:39:11 pm » |
|
นาย สราวุฒิ ดีดวงพันธ์ 115330411028-7 sec 4 วิศวกรรมโยธา 2/12/2553 17:39 แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้ ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Nattawut
|
 |
« ตอบ #102 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 05:55:01 pm » |
|
กระผมนายณัฐวุฒิ ชูพินิจ วิศวกรรมอุตสาหการ sec4 115330441214-7 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 ที่ ร้านเน็ต เวลา 17.55 น.
ความคิดเห็นว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ
1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นกระตุ้นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้า หน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือ ให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอม ทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น (ionization)
|
|
|
|
alongkorn hunbuathong
|
 |
« ตอบ #103 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 05:55:25 pm » |
|
นายอลงกรณ์ หุ่นบัวทอง สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330311026- เลขที่ 20 กลุ่ม 53341 cve sec 04 วันที่ 2/12/2553 เวลา 17.55 น. ณ บ้านบางชันวิลล่า ปัจจุบันเทคโนโลยีในการถ่ายภาพจะทันสมัยยิ่งขึ้น รวมไปถึงแฟลซ ในการทำงานของแฟลซนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำให้ได้ภาพที่สวยและไม่เบลอ แต่ในการทำงานของแฟลซนั้นจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันในสามตัวคือ หลอดไฟแฟลซ แบตเตอรี่ และวงจรไฟฟ้า โดยในแต่ละอุปกรณ์นั้นทำหน้าที่เพื่อให้ได้ไฟแฟลซ ในการทำงานของแฟลซนั้นต้องมีการเพิ่มแรงดันไฟฟ้าจาก 200 โวลต์ เป็น 1000-4000 โวลต์และส่งแรงดันไฟฟ้านี้ไปที่แผ่นกระตุ้นจึงทำการกระตุ้นให้ก๊าซซีนอนเกิดการอิออไนท์ และนำไฟฟ้า เกิดแสงวาบๆๆขึ้นนั้นก็คือแสงของแฟลซ
|
|
|
|
PoxyDonZ
|
 |
« ตอบ #104 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 06:01:45 pm » |
|
นาย สุรศักดิ์ ด้วงใจจิตร รหัส 115330411036-0 วิศวกรรมโยธา เวลา 06.02 pm. วันที่ 2 ธ.ค. 53 สถานที่ หอร์ โฟร์บี 2
แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้องให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
surachet
|
 |
« ตอบ #105 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 06:33:54 pm » |
|
กระผมนาย สุรเชฐ กัญจนชุมาบุรพ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.4 รหัส 115330441210-5 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2/12/53 ที่ บ้าน เวลา 18.32 ความคิดเห็นว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ
1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นกระตุ้นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้า หน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือ ให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอม ทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น (ionization)
|
|
|
|
oOGIG...k}
|
 |
« ตอบ #106 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 06:51:50 pm » |
|
นายชำนาญกิจ ศิริยานนท์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ sec04 เลขที่ 4 รหัส 115330411004-8 วันที่ 2 /12/2553 เวลา 06:50:36 pm สถานที่ เศรษฐบุตร
แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Thaweesak
|
 |
« ตอบ #107 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 06:57:09 pm » |
|
นาย ทวีศักดิ์ ธนทรัพย์ทวี รหัส 115330411008-9 วิศวกรรมโยธา sec.04 เวลา 18.57 ความรู้จากเนื้อหาที่ได้คือ แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อไฟแฟลซทำงานได้ง่ายโดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น
|
|
|
|
pollavat
|
 |
« ตอบ #108 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 07:52:51 pm » |
|
นายพลวัฒน์ คำกุณา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม เวลา 19.53 น. ที่หอพักzoom แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
titikron
|
 |
« ตอบ #109 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:54:43 pm » |
|
นาย ฐิติกร แก้วประชา รหัส 115330411022-0 วิศวกรรมโยธา Sec.04 วันที่ 2ธ.ค. 2553 เวลา 08.55 pm สถานที่ หอโฟร์บี 2 ระบบการทำงาน แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้อง ให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
potchapon031
|
 |
« ตอบ #110 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 09:15:01 pm » |
|
นายภชพน เกตุวงศ์ รหัส 115330411031-1 วิศวกรรมโยธา sec4 เลขที่25 สถานที่ กิตติพงศ์ แมนชั่น กล้องถ่ายรูปต้องใช้แสงมากในการสร้างภาพบนแผ่นฟิล์มการถ่ายภาพในที่ร่มแฟลตต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป แยกเป็น 3 ส่วนใหญ่ 1).แบตเตอรี่ 2).หลอดไฟแฟลช 3).วงจรไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าคือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดแก้วที่บรรจุก๊าซจากขั้วหนึ่งขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่มันจะชนเข้ากับอะตอมของซีนอนและทำให้อะตอมปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตอนหรือแสงออกมา จำเป็นต้องมีวงจรไฟฟ้าเพิ่มแรงดันของแบตเตอรี่ปัจจุบันมีการออกแบบวงจรขึ้นมาใช้มากมาย แต่ทั้งหมดมีพื้นฐานคล้ายๆกันทั้งสิ้น ประกอบด้วย ตัวเก็บประจุ ตัวเหนี่ยวนำไฟฟ้า ไดโอด ทรานซิสเตอร์
|
|
|
|
suppachok
|
 |
« ตอบ #111 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 09:28:46 pm » |
|
นาย ศุภโชค เปรมกิจ รหัส 115330411051-9 เวลา 09.29 pm. วันที่ 2 ธ.ค. 53 สถานที่ หอโฟร์บี 2
แฟลซเป็นหลอดไฟชนิดหนึ่งที่มีความเข้มในการส่องสว่างที่สูงมากๆๆนั่นคือต้องให้แรงเคลื่อนในการจุดชนวนการทำงานของหลอดสูงมากๆๆ เป็นพันๆๆโวลต์ ทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ หลอดไฟแฟลซ และ วงจรไฟฟ้า การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Thamanoon
|
 |
« ตอบ #112 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 09:47:58 pm » |
|
ผมนายธรรมนูญ พุทธวงษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411009-7 เลขที่ 9 เรียนกับ อ. จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 ที่ บ้านเช่า ซอยอีสเทิร์น เวลา 21.48 น. มีความคิดเห็นว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1 แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2 หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3 วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
Meena
|
 |
« ตอบ #113 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 10:00:30 pm » |
|
นายพสิษฐ์ แดงอาสา ภาค วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411011-3 Sec 4
แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) แบตเตอรี่ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2) หลอดไฟแฟลซให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3) วงจรไฟฟ้าควบคุมการทำงาน การต่อไฟแฟลซทำได้โดยการต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น
|
|
|
|
ponyotha
|
 |
« ตอบ #114 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 10:27:48 pm » |
|
ผมนายวีรพล นุ่มน้อย รหัส 115330411014-7 เลขที่ 11 sce 4 วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง วันที่ 02/12/53 หออยู่เจริญแมนชั่น เวลา 22.21 แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
somkid-3212
|
 |
« ตอบ #115 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 10:56:50 pm » |
|
สวัสดีครับ ผมชื่อ นาย สมคิด กุลสุวรรณ กลุม CVE 53341 รหัส 115330411033-7 การทำงานของเเฟลซเเบ่งออกเป็น3ส่วนคือ 1) แบตเตอรี่ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2) หลอดไฟแฟลซให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3) วงจรไฟฟ้าควบคุมการทำงาน
|
|
|
|
Mr.Tinnakorn
|
 |
« ตอบ #116 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 11:04:14 pm » |
|
นาย ทินกร สุพรรณสืบ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec 4 รหัสประจำตัว 115330411049-3 2/12/53 เวลา11:03Pm
แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1.แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2.หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3.วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน กาแฟลซทำได้ง่ายๆโดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้าและหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้รต่อนภายในหลอดไฟแฟลซบรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น(Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด แผ่นถูกซ่อนอยู่ภายใน และวางไว้หน้าวัสดุเคลือบเงา ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนแสงไฟแฟลซให้พุ่งไปข้างหน้าที่ของแผ่นกระตุ้น คือให้แรงดันไฟบวกจำนวนมากในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดูดอย่างรุนแรงกับประจุไฟฟ้าลบในอะตอมทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากวงโคจร กระบวนการนี้เรียกว่า อิออไนเซชั่น(ionization)
|
|
|
|
bear
|
 |
« ตอบ #117 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 11:07:31 pm » |
|
นาย อุดม แก้วชู คณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411034-5 เลขที่ 28 sec 4
สรุปได้ดังนี้ แฟลซต้องทำงานคล้อดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกเป็น สาม ส่วน 1. แบตเตอร์รี่ ขนาดเล็กทำหน้าที่ให้พลังงานกับแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า จะคงบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อกับแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้น ภายในหลอดบรรจุก๊าซซีนอน มีขั่วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั่ว และแผ่นกระตุ้นกระแสไฟฟ้า คือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดที่บรรจุก๊าซ จากขั่วหนึ่งไปยังอีกขั่วหนึ่ง เมื่ออิเล็กตรอนอิสระชนกับอะตอมของซีนอน ทำให้อิเล็กตรอนปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตรอน หรือแสงออกมา เพื่อที่จะทำให้ก๊าซเป็นตัวนำที่ดี
|
|
|
|
pisan mulchaisuk
|
 |
« ตอบ #118 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 11:21:36 pm » |
|
กระผมนาย ไพศาล มูลชัยสุข นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441215-4 Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 2 ธันวาคม 2553 เวลา 23.28 น. ที่หอพักเลิศวิจิตร มีความคิดเห็นว่า แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1 แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2 หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3 วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน การต่อแฟลซทำได้ง่ายๆ โดยต่อแบตเตอรี่เข้ากับวงจรไฟฟ้า และหลอดไฟ การไหลของประจุไฟฟ้าผ่านหลอดทำให้หลอดสว่างขึ้นภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด
|
|
|
|
mypomz
|
 |
« ตอบ #119 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 11:47:22 pm » |
|
นายนพรัตน์ โตอิ่ม คณะวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411040-2 เลขที่ 33 sec 4 ตอบกระทู้วันที่ 2 ธ.ค. 53 เวลา 23.48 สถานที่ ร้านshooter
แฟลซต้องทำงานสอดคล้องกับชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูป ซึ่งแยกออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ 1. แบตเตอรี่ ขนาดเล็กมีหน้าที่ให้พลังงานกับหลอดไฟแฟลซ 2. หลอดไฟแฟลซ ให้แสงจำนวนมากอย่างรวดเร็ว 3. วงจรไฟฟ้า ควบคุมการทำงาน ภายในหลอดไฟแฟลซ บรรจุก๊าซซีนอน มีขั้วไฟฟ้าที่หลอด 2 ขั้ว และแผ่นกระตุ้น (Trigger Plate) วางไว้ข้างหลอด กระแสไฟฟ้าคือการไหลของอิเล็กตรอนอิสระ ซึ่งจะไหลผ่านหลอดแก้วที่บรรจุก๊าซ จากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง ขณะที่อิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่มันจะชนเข้ากับอะตอมของซีนอนและทำให้อะตอมปลดปล่อยพลังงานเป็นโฟตอนหรือแสงออกมา
|
|
|
|
|