dararat
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 05:10:56 pm » |
|
นางสาวดารารัตน์ นิรันต์เรือง รหัส 115210904035-0 sec 02 เลขที่ 41 คณะวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี สาขาชีววิทยา อาจารย์ผู้สอนจรัส บุญธรรมา เข้ามาตอบกระทู้เมื่อวัน 7 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 17:10 ณ ห้องพักส่วนตัว ซ.zoom ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐานที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้
|
|
|
|
Eakachai_ie
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2011, 12:25:48 pm » |
|
นายเอกชัย สงวนศักดิ์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ SEC.02 รหัสประจำตัว 115040441086-4 เลขที่ 6 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 8/02/54 เวลา 12.25 น. สถานที่ หอมาลีแมนชัน แสงและเวลามีอยู่ในทุกที่แต่แสงและเวลาจะแตกต่างกันออกไปเมื่อมีแรงโน้วถ่วงที่มหาศาล แรงโน้วถ่วงนั้นสมารถดึงเวลาให้ช้าลงได้ ในสภาวะที่เกิดหลุมดำขึ้นจะมีแรงโน้มถ่วงมากมาย แสงซึ่งจัดเป็นอนุภาคถูกดูดกลืนเข้าไปจนทำให้สภาวะนั้นไม่มีเวลา
|
|
|
|
Thatree Srisawat
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2011, 09:52:32 pm » |
|
นายธาตรี ศรีสวัสดิ์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา สถิติประยุกต์ sec 02 รหัส 115310903061-5 เลขที่ 77 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554เวลา21.51น.ที่บ้าน สรุปว่าทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
|
|
|
|
toonpccphet
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2011, 09:56:22 pm » |
|
นายสุรเชษฐ ทองโฉม นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ sec02 เลขที่ 65 รหัส 115310903044-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 08/02/2554 เวลา 21:56 ณ บ้าน "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน Grin กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ ว่า พวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐาน ที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้
|
|
|
|
Chanon_non26
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 10:36:28 am » |
|
ชานนท์ พงษ์ไพโรจน์ รหัส 115310903029-2 เลขที่ 52 sec2 เวลา 10:35 วันที่ 9/2/54 ;วิทยบริการ ทฤษฎี นี้เรียกว่า "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน Grin กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ ว่าพวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐาน ที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้ ครับ....
|
|
|
|
Nhamtoey
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 05:14:28 pm » |
|
นางสาวเรวดี จันท้าว ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec 04 รหัส 115330411006-3 เลขที่ 6 ตั้งกระทู้วันที่ 9/02/2554 เวลา 17.10น. ที่ หอพักโอนิน5
ทฤษฎี นี้เรียกว่า "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน Grin กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ ว่า พวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐาน ที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้
|
|
|
|
Phatcharee
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 05:18:56 pm » |
|
นางสาวพัชรี มากพิ้ม เลขที่ 18 รหัส 115110903048-6 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 9 /02/2554 เวลา 17.18 น. สถานที่ บ้าน สรุปได้ว่า ........ :  ทฤษฎี นี้เรียกว่า "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน Grin กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ ว่าพวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐาน ที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้
|
|
|
|
watchaiza
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 05:24:38 pm » |
|
นายธวัชชัย ไลรักษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส115330411041-0sec 04 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 9/02/54 เวลา17.24 สถานที่บ้านพฤกษา ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่งได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
|
|
|
|
Kitiwat
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 02:19:17 am » |
|
นายกิติวัฒน์ ศรประสิทธิ์ เลขที่ 24 รหัส 115330411030-3 วิศวกรรมโยธา sec 4 เมื่อv=cโมเมนตัมของวัตถุมีค่าเป็นอนันต์ เราสรุปว่าไม่มีวัตถุใดที่จะถูกเร่ง ให้มีอัตราเร็วของเเสงcได้ดังนั้นc เป็นขีดจำกัดบนของอัตราเร็ว
|
|
|
|
titikron
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 04:21:37 pm » |
|
นาย ฐิติกร แก้วประชา รหัส 115330411022-0 เลขที่ 17 sec 4 วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง วันที่ 10/02/54 เวลา 16.20 น. หอโฟร์บี ทฤษฎี นี้เรียกว่า "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน Grin กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ ว่าพวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐาน ที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้ ครับ....
|
|
|
|
oOGIG...k}
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 04:33:42 pm » |
|
ผมนายชำนาญกิจ ศิริยานนท์ รหัส 115330411004-8 เลขที่ 4 sec.4 วิศวกรรมโยธา เวลา 04:32:28 pm วันที่ 10/2/54
ทฤษฎี นี้เรียกว่า "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน Grin กล่าวให้ชัดคือว่า อัตราเร็วของแสงจะเท่ากันสำหรับทุกผู้สังเกต แม้ ว่า พวกเขาจะเคลื่อนที่สัมพัทธ์กันก็ตาม ทฤษฎีสัมพัทธภาพแสดงให้เห็นว่า c ไม่ใช่แค่ความเร็วของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า แสง เท่านั้น แต่ยังเป็นค่าพื้นฐาน ที่เชื่อมสเปซกับเวลาเข้าด้วยกัน กล่าวโดยเจาะจงคือว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพยืนยันว่าไม่มีวัตถุใดเคลื่อนที่เร็วเท่ากับแสงได้
|
|
|
|
Pichat Soysamrong
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 05:27:17 pm » |
|
กระผม นาย พิเชษฐ์ สร้อยสำโรง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec. 04 รหัสประจำตัว 115330411003-0 เลขที่ 3 เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 10 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ที่ เศรษฐบุตร พาวิลเลี่ยน 32/19 ม. 1 ต. คลองหก อ. คลองหลวง จ. ปทุมธานี เวลา 17.27 น. สรุปได้ว่า "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
|
|
|
|
suppachok
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 05:46:19 pm » |
|
นาย สุภโชค เปรมกิจ 115330411051-9 sec 04 g]-muj 44 กะทู้เมื่อ วันที่ 9 /02/2554 เวลา 17.47 น. ณ ห้องสมุดมหาลัย แสงและเวลามีอยู่ในทุกที่แต่แสงและเวลาจะแตกต่างกันออกไปเมื่อมีแรงโน้วถ่วงที่มหาศาล แรงโน้วถ่วงนั้นสมารถดึงเวลาให้ช้าลงได้ ในสภาวะที่เกิดหลุมดำขึ้นจะมีแรงโน้มถ่วงมากมาย แสงซึ่งจัดเป็นอนุภาคถูกดูดกลืนเข้าไปจนทำให้สภาวะนั้นไม่มีเวลา
|
|
|
|
aek cve rmutt
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 03:06:29 am » |
|
นาย เอกชัย เสียงล้ำ 115330411046-9 sec 4 วิศวกรรมโยธา กลุ่ม 53341 เวลา 3.06 แสงและเวลามีอยู่ในทุกที่แต่แสงและเวลาจะแตกต่างกันออกไปเมื่อมีแรงโน้วถ่วงที่มหาศาล แรงโน้วถ่วงนั้นสมารถดึงเวลาให้ช้าลงได้ ในสภาวะที่เกิดหลุมดำขึ้นจะมีแรงโน้มถ่วงมากมาย แสงซึ่งจัดเป็นอนุภาคถูกดูดกลืนเข้าไปจนทำให้สภาวะนั้นไม่มีเวลา
|
|
|
|
pisan mulchaisuk
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 07:05:45 am » |
|
กระผมนาย ไพศาล มูลชัยสุข นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441215-4 Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 7.05 น. ที่หอพักเลิศวิจิตร มีความคิดเห็นว่า ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่งได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
|
|
|
|
pichet
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 07:35:35 am » |
|
กระผม นายพิเชษฐ์ จันทร์โสภา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec 4 รหัสประจำตัว 115330411044-4 เลขที่ 37 วันที่ 11/02/54 เวลา 07.35 น. เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา "ทฤษฏีสัมพัทธ์ภาพพิเศษ" เนื่องจากมันประยุกต์หลักสัมพัทธภาพกับกรอบอ้างอิงเฉื่อยเท่านั้น ไอน์สไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปโดยประยุกต์หลักสัมพัทธภาพให้ใช้ทั่ว ไป กล่าวคือ ใช้ได้กับทุกกรอบอ้างอิง ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้รวมผลของความโน้มถ่วง แต่มันสามารถจัดการกับความเร่ง ได้ ถึงแม้ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพจะทำให้เกิดการสัมพัทธ์กันของปริมาณบางอย่าง เช่น เวลาซึ่งเรามักคิดว่าเป็นปริมาณสัมบูรณ์เนื่องจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
|
|
|
|
|