sathian757
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 04:10:02 pm » |
|
นายเสถียร ปานามะเส คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441203-9 ตอบกระทู้วันที่ 02/02/54 เวลา 16:09 น. สถานที่ หอพัก นวนคร สรุปได้ว่า ผลงานของมารี กูรี, เออร์เนส รัทเทอร์ฟอร์ด, แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์,อ็อตโตฮาน และนักวิทยสาสตร์คนอื่น ๆ ช่วยให้เข้าใจธรรมชาติของอะตอมได้ดียิ่งขึ้น เข้าใจมากจนทราบว่า อะตอมสามารถยิงให้แตกเป็นเสี่ยงหรือนำมาหลอมรวมกันได้ ซึ่งทั้งสองทางหากจุดสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมจะให้พลังงานความร้อน แสง แล ะ3 พลังงานรูปแบบอื่นๆในปริมาณมหาศาล ในปี 1945 ระเบิดอะตอมอำนาจการทำลายล้างมหาศาลถูกทิ้งลงจากเครื่องบินทำลายเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่นจนทลายราบยุติสงครามโลกครั้งที่สองได้ในทันที ระเบิดอะตอมอาศัยการแตกอะตอมเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ในปัจจุบันนี้ สหรัฐฯและรัสเซียมีระเบิดไฮโดรเจนที่มีอำนาจการทำลายล้างสูงกว่าอีกหลายเท่าตัว...มีมากพอที่จะระเบิดโลกให้เป็นผุยผงได้หลายครั้ง ผลลัพท์น่าสะพรึงกลัวจากการวิจัยทาง วิทยาศาสตร์...ระเบิดอะตอมลูกที่สองที่สหรัฐฯทิ้งลงถล่มเมืองนางาซากิประเทศ • ญี่ปุ่นในปี 1945 กัมมันตภาพรังสีแผ่กระจายครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แต่ก็ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติในอีกไม่กี่วันถัดมา
|
|
|
|
tongchai
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 04:31:28 pm » |
|
ผมนาย ธงชัย ฉิมสุด นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) sec 17 รหัส 115340441240-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 ณ หอพักโพธิ์ทอง เวลา 16.31 น
มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
minisize15
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 05:12:02 pm » |
|
มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบ เรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโล
นายจตุรงค์ ใยเทศ 115110905036-9 เลขที่ 22 sec 2
|
|
|
|
Sirilak
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 06:32:25 pm » |
|
นางสาวสิริลักษณ์ ศัพสุข sec.02 รหัส115210417064-0 เรียนกับ อ.จรัส บุณยธรรมา วันที่2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา18.31น.
มารี กูรี เป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เมื่ออายุได้ 27 ปีมารี พบรักกับ ปิแอร์ กูรี ทั้งสองตกลงแต่งงานกัน ปิแอร์กูรี ทำงานเป็นผู้ช่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยปารีส ปิแอร์กับฌากส์ พี่ชายศึกษาเรื่องความร้อน ผลึก สภาวะแม่เหล็กและไฟฟ้า อีกสี่ปีถัดมา เขาดำรงตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษาที่เอกอล เดอ ฟิสิกส์ (มหาลัยฟิสิกส์) ปิแอร์ กูรีได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากผลงานการศึกษาเรื่องสภาวะแม่เหล็ก มารี มาทำงานร่วมกับสามีที่มหาวิทยาลัยฟิสิกส์ เธอศึกษาเรื่อง คุณสมบัติของม่เหล็กของโลหะผสมหลายชนิด และเขียนบทความชิ้นแรกส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ปิแอร์และฌากส์ กูรี ประดิษฐ์มาตรศักย์ไฟฟ้าสถิต ใช้ตรวจวัดว่า สารมีการปล่อยรังสีออกมาหรือไม่ หากสารนั้นมีการปล่อยกัมมันตภาพรังสี อากาศรอบข้างจะมีประจุไฟฟ้า
|
|
|
|
heetoon
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 08:08:49 pm » |
|
นายราชันย์ บุตรชน รหัส 115330411047-7 เลขที่40 sec.4 วิศวกรรมโยธา วันที่ 02/02/54 เวลา20.10 ที่หอโฟบี4
มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
bear
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 09:09:10 pm » |
|
นาย อุดม แก้วชู 115330411034-5 เลขที่ 28 02/02/2554 วิศวกรรมโยธา sec 4 เวลา 21.09น หอพักมณีโชติ วันที่ 7 พฤศจิกายน 1867 เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
Nitikanss
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 10:42:55 pm » |
|
นางสาวนิติการณ์ รัตนบุรี sec.2 เลขที่71 รหัสนักศึกษา 115310903052-4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติ ตอบกระทู้วันที่2 02 54 เวลา22.42น. ที่ Banoffee มารี กูรี เป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เมื่ออายุได้ 27 ปีมารี พบรักกับ ปิแอร์ กูรี ทั้งสองตกลงแต่งงานกัน ปิแอร์กูรี ทำงานเป็นผู้ช่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยปารีส ปิแอร์กับฌากส์ พี่ชายศึกษาเรื่องความร้อน ผลึก สภาวะแม่เหล็กและไฟฟ้า อีกสี่ปีถัดมา เขาดำรงตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษาที่เอกอล เดอ ฟิสิกส์ (มหาลัยฟิสิกส์) ปิแอร์ กูรีได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากผลงานการศึกษาเรื่องสภาวะแม่เหล็ก มารี มาทำงานร่วมกับสามีที่มหาวิทยาลัยฟิสิกส์ เธอศึกษาเรื่อง คุณสมบัติของม่เหล็กของโลหะผสมหลายชนิด และเขียนบทความชิ้นแรกส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ปิแอร์และฌากส์ กูรี ประดิษฐ์มาตรศักย์ไฟฟ้าสถิต ใช้ตรวจวัดว่า สารมีการปล่อยรังสีออกมาหรือไม่ หากสารนั้นมีการปล่อยกัมมันตภาพรังสี อากาศรอบข้างจะมีประจุไฟฟ้า
|
|
|
|
attakron006@hotmail.com
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 11:00:06 pm » |
|
กระผม นาย อรรถกร จิตรชื่น นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441217-9 เลขที่ 22 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 02 เดือน กุมภาพันธ์ พศ.2554 เวลา 23.00น. สถานที่ บ้านฟ้ารังสิต หญิงเหล็กกับเรเดียมมารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ พิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
sodiss
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2011, 11:40:42 pm » |
|
นายธรรมนันท์ เหมือนทิพย์ รหัส115210441248-9 sec.02 เลขที่ 27 วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ วันที่ 2/02/54 เวลา 23.40. น. ที่ หอบ้านดวงพร มีความคิดเห็นว่า มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ พิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
opisit
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:07:50 am » |
|
กระผม นาย พิสิทธิ์ สอนเทศ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441207-0 เรียนกับอาจารย์ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรม เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 03 เดือน กุมภาพันธิ์ พ.ศ. 2554 ที่บ้าน เวลา 11:00 น. มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยัง ไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหน ทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
suradet phetcharat
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:09:59 am » |
|
นายสุรเดช เพ็ชรรัตน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา CVE2 Sec17 เลขที่ 9 รหัส 115340411115-1 ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 11.10 น.Office สำนักงานบริษัทไทยวัฒน์ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ พิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
Penprapa
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 01:10:31 pm » |
|
นางสาวเพ็ญประภา สุเพียร เลขที่ 40 กลุ่ม 2 รหัส 115210904029-3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอบกระทู้เมื่อวันที่ 3 กพ. 54 เวลา 13.10 น. ณ วิทยะบริการ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบ เรเดียม มารี กูรี เป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เมื่ออายุได้ 27 ปีมารี พบรักกับ ปิแอร์ กูรี ทั้งสองตกลงแต่งงานกัน ปิแอร์ กูรีได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากผลงานการศึกษาเรื่องสภาวะแม่เหล็ก มารี มาทำงานร่วมกับสามีที่มหาวิทยาลัยฟิสิกส์ เธอศึกษาเรื่อง คุณสมบัติของม่เหล็กของโลหะผสมหลายชนิด และเขียนบทความชิ้นแรกส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ปิแอร์และฌากส์ กูรี ประดิษฐ์มาตรศักย์ไฟฟ้าสถิต ใช้ตรวจวัดว่า สารมีการปล่อยรังสีออกมาหรือไม่ หากสารนั้นมีการปล่อยกัมมันตภาพรังสี อากาศรอบข้างจะมีประจุไฟฟ้า
|
|
|
|
Kitti_CVE2
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 01:36:48 pm » |
|
กระผม นาย กิตติ จิตนันทกุล นักศึกษาคณะ วิศวกรรมโยธา sec 17 เลขที่ 8 รหัสประจำตัว 115340411113-6 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 03/02/54 เวลา 13.34 น. ณ.ที่ทำงาน
เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
chaiyun
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 01:44:55 pm » |
|
นายชัยยันต์ นุยืนรัมย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441215-3 เลขที่21 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 3/02/54 เวลา 13.43 น. สถานที่ ห้องพักนวนคร เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น 
|
|
|
|
Jantira
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 01:58:27 pm » |
|
นางสาวจันทิรา รัตนพันธุ์ sec.2 เลขที่64 รหัสนักศึกษา 115310903042-5 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติ วันที่3/02/54 เวลา13.57น. ณbanoffee สรุป วันที่ 7 พฤศจิกายน 1867 เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
kambio
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 02:42:47 pm » |
|
นางสาว นันทวัน มีชำนาญ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา ชีววิทยา sec. 02 เลขที่ 43 รหัส 115210904052-5 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 3 ก.พ. 2554 สถานที่ บ้าน เวลา 14.41 น.
เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบ เรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
hatorikung_nutt
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 07:34:56 pm » |
|
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศศรี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่19 รหัสประจำตัว115340441209-6 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 3/02/54 เวลา 19.34ณ หอพักวงษ์จินดา
มารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโล
|
|
|
|
narongdach
|
 |
« ตอบ #47 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 07:50:44 pm » |
|
นายณรงค์เดช เพ็งแจ่ม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441220-3 ตอบกระทู้วันที่ 3/02/54 เวลา19.51 น. สถานที่ อพาร์ทเม้นต์ เอกภาคย์ เมืองเอก
มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบ เรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
Narumol
|
 |
« ตอบ #48 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:35:03 pm » |
|
น.ส.นฤมล กำลังฟู รหัสนักศึกษา 115210417031-9 No.26 Sec.02 มารี กูรี เป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เมื่ออายุได้ 27 ปีมารี พบรักกับ ปิแอร์ กูรี ทั้งสองตกลงแต่งงานกัน ปิแอร์กูรี ทำงานเป็นผู้ช่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยปารีส ปิแอร์กับฌากส์ พี่ชายศึกษาเรื่องความร้อน ผลึก สภาวะแม่เหล็กและไฟฟ้า อีกสี่ปีถัดมา เขาดำรงตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษาที่เอกอล เดอ ฟิสิกส์ (มหาลัยฟิสิกส์) ปิแอร์ กูรีได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากผลงานการศึกษาเรื่องสภาวะแม่เหล็ก มารี มาทำงานร่วมกับสามีที่มหาวิทยาลัยฟิสิกส์ เธอศึกษาเรื่อง คุณสมบัติของม่เหล็กของโลหะผสมหลายชนิด และเขียนบทความชิ้นแรกส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ปิแอร์และฌากส์ กูรี ประดิษฐ์มาตรศักย์ไฟฟ้าสถิต ใช้ตรวจวัดว่า สารมีการปล่อยรังสีออกมาหรือไม่ หากสารนั้นมีการปล่อยกัมมันตภาพรังสี อากาศรอบข้างจะมีประจุไฟฟ้า
|
|
|
|
LeeOa IE'53 SEC.17
|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 12:00:23 am » |
|
กระผม นาย สุธี มีอำมาตย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) เลขที่ 15 SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441205-4 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 0:00 AM. สถานที่บ้านพักที่วังน้อย มีความเห็นว่า เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
tanongsak wachacama
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 05:44:19 am » |
|
กระผมนายทนงศักดิ์ เวชกามา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411016-2 กลุ่ม 53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 04/02/2554 เวลา5.45 น. ที่spcondo ได้มีข้อคิดเห็นดังนี้ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก
|
|
|
|
namtan
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 02:29:45 pm » |
|
ดิฉัน นางสาวณัชชา ธิติบุญจันทร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอาหาร sec02 รหัสประจำตัว115210417055-8 เลขที่ 27 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 4 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 ที่หอพักโอนิน3 เวลา 14.29น. ความรู้จากเนื้อหาที่ได้คือ เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
รัฐพล เกตุอู่ทอง
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 02:39:13 pm » |
|
กระผม นายรัฐพล เกตุอู่ทอง นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441229-4 เลขที่ 26 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 04 เดือน กุมภาพันธุ์ พศ.2554 เวลา 14.38 น. สถานที่ หอพักเฉลิมพล
สรุปว่า มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
alongkorn hunbuathong
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 05:04:09 pm » |
|
นายอลงกรณ์ หุ่นบัวทอง รหัส 115330411026-1 เลขที่ 20 กลุ่ม 53341 cve Sec 04 สาขาวิศวกรรมโยธา วันที่ 4/2/54 เวลา 17.04 น. ณ บ้านบางชันวิลล่า วันที่ 7 พฤศจิกายน 1867 เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
jackmaco
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 06:02:04 pm » |
|
นายธีรพงษ์ ม้วนทอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441211-2 ตอบกระทู้วันที่ 04/02/54 เวลา 18:02 น. สถานที่ หอ เอื้อมเดือน สรุป : ศตวรรษที่ 20 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โลกยุคอะตอม” ในระยะเริ่มต้นนักวิทยาศาสตร์พยายามค้นคว้าหาว่าอะตอม (ในยุคนั้นทราบกันว่าเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดของสสาร ) จะสามารถแยกย่อยให้เป็นอนุภาคที่เล็กกว่านั้นได้หรือไม่ในที่สุด ในปี 1919 นักวิทยาศาสตร์ก็ประสบความสำเร็จในการแตกอะตอมความรู้ในเรื่องนี้นำไปสู่การผลิตระเบิดอะตอม ระเบิดมหาประลัย อำนาจการทำลายล้างสูง และก่อให้เกิดให้มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมา โดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้
|
|
|
|
mildfunta
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 07:01:13 pm » |
|
นางสาวธัญลักษณ์ มิชัยยา เลขที่ 76 รหัส 1153109030607 sec 02 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 18.58 น. ณ shooter internet cafe' มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัวเธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสีต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุนหรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้านทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่าผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้
|
|
|
|
wuttipong
|
 |
« ตอบ #56 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 11:08:24 pm » |
|
ผมนายวุฒิพงษ์ สุขะ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411029-5 Sec.04 เลขที่ 23 ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 04/02/2554 เวลา23:08 น. ที่หอพัก FourB5 สรุปได้ว่า เด็กหญิงมาเรีย ซาโลมี สโกล์ดอฟสกาถือกำเนิดบนถนนเฟรตา ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ บิดามารดาของเธอเป็นครู ทั้งคู่มีลูกอยู่ 4คน คือ โซเฟีย โบรนิสลาวา ( โบรเนีย) เฮเลนา และบุตรชาย โจเซ็ฟ มารี สโกล์ดอฟสกา เกิดในบ้านเลขที่ 16 ถนนเฟรตา กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ อาคารหลังนี้ ได้รับการบูรณะเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงผลงานและชีวิตของมารี กูรี มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบ เรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ ในท้ายที่สุด มารีกูรี ก็ประกาศศักดิ์ศรีนักวิทยาศาสตร์ให้ผู้คนประจักษ์กันทั่วโลก เธอได้รับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้ง เธอรณรงค์หาทุนเพื่องานวิจัยทิ้งไว้ให้เป็นมรดกคนรุ่นหลัง ผลงานวิจัยของมารี กูรี และคณะ ไขปริศนาดำมืดเรื่อง อะตอมและกัมมันตภาพรังสี จนส่งแสงเรืองรองให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
sangtawee
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 12:02:51 am » |
|
กระผมนายแสงทวี พรมบุตร นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411035-2 Sec.04 เลขที่ 29 ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 04/02/2554 เวลา0:02 น. สถานที่หอพัก FourB5 มีความเห็นว่า มารี กูรี เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัวเธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสีต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุนหรือการยอมรับนับถือจากสังคมรอบด้านทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่าผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้
|
|
|
|
thanathammarat
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 12:55:13 am » |
|
นายปรัชญาพล ธนาธรรมรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่ 14 รหัสประจำตัว115340441204-7 ตอบกระทู้วันที่ 05-02-2554 เวลา 00:55 น. สถานที่ บริษัท Siam lemmerz เนื้อหาสรุปได้ว่า... ศตวรรษที่ 20 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โลกยุคอะตอม” ในระยะเริ่มต้นนักวิทยาศาสตร์พยายามค้นคว้าหาว่าอะตอม (ในยุคนั้นทราบกันว่าเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดของสสาร ) จะสามารถแยกย่อย ให้เป็นอนุภาคที่เล็กกว่านั้นได้หรือไม่ในที่สุด ในปี 1919 นักวิทยาศาสตร์ก็ประสบความสำเร็จในการแตกอะตอมความรู้ในเรื่องนี้นำไปสู่การ ผลิตระเบิดอะตอม ระเบิดมหาประลัย อำนาจการทำลายล้างสูง มารี กูรี เป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เป็นหนึ่งในคณะผู้บุกเบิกในการวิจัยเรื่องกัมมันตภาพรังสีเธอเป็นผู้ค้นพบ เรเดียม ซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมา โดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เธอศึกษาค้นคว้าวิจัยในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักมหันตภัยของกัมมันตภาพรังสี ต้องดิ้นรนทำงานด้วยความขาดไร้ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสนับสนุน หรือการยอม รับนับถือจากสังคมรอบด้าน ทำงานหนักสายตัวแทบขาดทั้งๆที่ป่วยไข้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทานทนได้ และต้องฝืนกระแสความเชื่อประจำยุคนั้นที่ว่า ผู้หญิงไม่มีทางเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้
|
|
|
|
lor_lexCVE2
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 01:04:15 am » |
|
นายสุรพงษ์ จำปานาค วิศวกรรมโยธา รหัส 115340411107-8 เลขที่ 5 sec 17 สถานที่ บ้าน วันที่ 4/1/2554 เวลา 1.04 น.
มารี กูรี เป็นผู้ค้นพบเรเดียมซึ่งเปล่งกัมมันตภาพรังสีออกมาโดยธรรมชาติในขณะที่อะตอมแตกตัว เมื่ออายุได้ 27 ปีมารี พบรักกับ ปิแอร์ กูรี ทั้งสองตกลงแต่งงานกัน ปิแอร์กูรี ทำงานเป็นผู้ช่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยปารีส ปิแอร์กับฌากส์ พี่ชายศึกษาเรื่องความร้อน ผลึก สภาวะแม่เหล็กและไฟฟ้า อีกสี่ปีถัดมา เขาดำรงตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษาที่เอกอล เดอ ฟิสิกส์ (มหาลัยฟิสิกส์) ปิแอร์ กูรีได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากผลงานการศึกษาเรื่องสภาวะแม่เหล็ก มารี มาทำงานร่วมกับสามีที่มหาวิทยาลัยฟิสิกส์ เธอศึกษาเรื่อง คุณสมบัติของม่เหล็กของโลหะผสมหลายชนิด และเขียนบทความชิ้นแรกส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ ปิแอร์และฌากส์ กูรี ประดิษฐ์มาตรศักย์ไฟฟ้าสถิต ใช้ตรวจวัดว่า สารมีการปล่อยรังสีออกมาหรือไม่ หากสารนั้นมีการปล่อยกัมมันตภาพรังสี อากาศรอบข้างจะมีประจุไฟฟ้า
|
|
|
|
|