Kamphon
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 04:47:23 pm » |
|
นายกัมพล มิ่งฉาย วิศวกรรมอุตสาหการ เรียนกับผศ.จรัส บุณยธรรมา ตอบวันที่ 17-1-2011 เวลา 16.47 น. ที่วิทยบริการ เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสงในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
Pathomphong
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 06:18:04 pm » |
|
นายปฐมพงศ์ พูนปก รหัส 115330411043-6 sec 04 เลขที่ 36 วิศวกรรมโยธา เรียนกับอาจารย์จรัส บุญยธรรมา วันที่ 17/01/54 เวลา 18.16 น. ที่หอลากูล
เขาได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากมาย รวมกันจนมีความหนาแน่น ต่อมาเขาได้ทำการทดลองที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปทฤษฎีนี้ว่า ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์ แมกเวล-โบลทซ์มาน ของก๊าซ ได้นำหลักการนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีลังงานจลน์ของความร้อน ต่อมาเข้ากล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อแม่เหล็กก็ต้องไฟฟ้า
|
|
|
|
Phatcharee
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 07:56:35 pm » |
|
นางสาวพัชรี มากพริ้ม นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา สถิติประยุกต์ sec. 02 เลขที่ 18 รหัส 115110903048-6 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 17 ม.ค. 2554 สถานที่ บ้าน เวลา 19.55น.  เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสงในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
Jutharat
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 08:57:15 pm » |
|
นางสาวจุฑารัตน์ นาวายนต์ รหัส 115210417058-2 เลขที่ 28 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 17 มกราคม 2554 เวลา 21.00 ณ หอ RS หลังจากแมกเวลจบการศึกษา เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์และได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
Bifern
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 11:19:59 pm » |
|
นางสาวชลทิพย์ เปาทอง นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ เลขที่ 48 รหัสนักศึกษา 115310903007-8 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 17/01/2554 เวลา 23.14 สถานที่ บ้านตัวเอง สรุปได้ว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล เป็นผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อน หลังจากแมกเวลจบการศึกษา เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์และได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้ถ่ายภาพ และประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี ต่อมาในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า
|
|
|
|
rungsan
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 09:27:50 am » |
|
นาย รังสรรค์ พัธกาล 115340441243-5 sec 17 เลขที่32 วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ วันที่ 18/1/54 เวลา 9.25 น. สถานที่หอพักโอนิน เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยว กับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปทฤษฎีนี้ว่า ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์ แมกเวล-โบลทซ์มาน ของก๊าซ ได้นำหลักการนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีลังงานจลน์ของความร้อน ต่อมาเข้ากล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อแม่เหล็กก็ต้อง ไฟฟ้า โดยการทดลองการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้หับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 30,000 km/s
|
|
|
|
amnuay cve2
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:13:27 am » |
|
 กระผมนาย อำนวย เกิดโภคา นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา SEC 17 เลขที่ 10 รหัส 115340411116-9 อาจารย์ผู้สอน ผศ. จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 18/1/2554 ที่บ้าน เวลา 10.13.02 น. เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง เกิด วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
soawanee
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 01:08:13 pm » |
|
นางสาวเสาวณีย์ อนันต์ sec02 นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ เลขที่ 72 รหัสนักศึกษา 1153109030532 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 18/01/2554 เวลา 13.07 น. สถานที่ บ้านตัวเอง เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้ - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
Sonthaya Suwaros
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 01:56:44 pm » |
|
นายสนธยา สุวรส นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมอุตสาหกรรม รหัสประจำตัว 115040441089-8 วันที่ 18 ม.ค. 54 เวลา 13.55 น. ครับ
สรุปได้ว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell ผลงานมี - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หลังจากแมกเวลจบการศึกษา เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์และได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ครับ....
|
|
|
|
ดนุพร อ่อนศรี
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 02:03:00 pm » |
|
นายดนุพร อ่อนศรี รหัส 115040472024-7 sec.02 เลขที่ 8 ภาควิชาวิศวกรรมพลาสติก ตอบกระทู้ที่บ้านซอยอิสเทิล วันที่ 18/01/2554 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา แมกเวลจบการศึกษาขั้นต้นแล้ว เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก (Edinburg University)ในระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ที่นี่ เขาได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน (William Nikon) ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี ทำงานอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 5 ปี ก็ลาออก และย้ายไปอยู่ที่เมืองเคนซิงต้น (Kensingtion) ประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ โดยแมกเวลได้ทำการ ศึกษาก๊าซที่ละชนิดที่อยู่ในภาชนะ และนอกภาชนะ จากการทดลองแมกเวลได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ชื่อ ลุดวิค โบลทซ์มาน (Ludwig Boltzmann) ได้ทำการค้นคว้าทดลอง และได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มาน ของก๊าซ (Kinetic Maxwell - Boltzmann Theory of Gas)" เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อน ขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) ในเวลาต่อมา
|
|
|
|
chinnapot
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 03:42:13 pm » |
|
นายชินพจน์ เดชเกษรินทร์ คณะ วิศวกรรมอุตสาหการ-การจักการ รหัส 115340441238-5 sec17 วันที่18/01/54 เวลา15.40 ณ ทรัพย์ถาวรอพาร์ทเม้นท์
แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้ากล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็ก กับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
sutin
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 04:00:56 pm » |
|
นาย สุทิน ศรีวิลัย รหัส 115340441222-9 seec 17 เลขที่ 25 สถานที่ บ. เจเอสออโตเวิร์ค วันที่ 18/1/54 เวลา 16.00 น. แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็ก กับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
pitak
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 05:09:09 pm » |
|
นายพิทักษ์ นงนวล รหัส 115330411018-8 sec 04 เลขที่ 15 ตอบกระทู้ที่ สวนสุทธิพันธ์ วันที่ 18/01/2554 เวลา 17.09 น. สรุปได้ว่าหลังจากจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กแล้ว แมกเวลได้เข้าเรียนต่อวิชาคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จบการศึกษาด้วยปริญญาเกียรตินิยมอันดับ1 เขาทำงานที่มาริสคาล ได้เข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์ ได้เสนอความเห็นว่าวงแหวนของดาวเสาร์ประกอบไปด้วยดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากมายทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เขาย้ายไปอยู่ที่เมืองเคนซิงต้น ทำการทดลองเกี่ยวกับเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ จากการทดลองแมกเวลตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์ ชื่อ โบลทซ์มาน ได้ทำการค้นคว้าทดลอง และได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มาน แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้า โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
ratthasart
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 05:45:18 pm » |
|
ผมนายรัฐศาสตร์ ไชยโส นักสึกษาภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.4 รหัส 115330441218-8 เลขที่ 61 เรียนกับผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 17.45 น. ที่ ห้องพัก เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้า สามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสงในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
toonpccphet
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 08:51:26 pm » |
|
นายสุรเชษฐ ทองโฉม นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ sec02 เลขที่ 65 รหัส 115310903044-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 18/01/2554 เวลา 20:51 ณ บ้าน สรุปได้ว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
somkid-3212
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 09:15:43 pm » |
|
|
|
|
|
ยุพารัตน์ หยิบยก
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:35:45 pm » |
|
นางสาวยุพารัตน์ หยิบยก นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคณิตศาสตร์ sec2 รหัสประจำตัว 115110901011-6 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา
เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง เจมส์ คลาร์ก แมเวล เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิตวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
iinuyashaa
|
 |
« ตอบ #47 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 10:50:27 pm » |
|
นางสาววิภวานี แสงทอง นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเคมี sec 02 รหัส 115210902118-6 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 18/1/2554 ที่บ้าน เวลา 22:50 น.
สรุปว่า
เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้ - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
TanGMe
|
 |
« ตอบ #48 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:20:23 pm » |
|
ดิฉันนางสาวภัทรพร ผลอำไพ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ รหัส115330411042-8 sec.02 เลขที่ 6 เวลา 23.20 วันที่ 18มกราคม 2554 เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้ 1 ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน 2 ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ 3 ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
Narumol
|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:37:22 pm » |
|
น.ส.นฤมล กำลังฟู เลขที่26 Sec.2 รหัสนักศึกษา115210417031-9 เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็น ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจาก นี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง ต่อมาในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
heetoon
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:43:49 pm » |
|
นายราชันย์ บุตรชน รหัส115330411047-7 sec.4 วิศวกรรมโยธา วันที่18/1/54 เวลา 23.48 ที่หอ Four B4
เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปทฤษฎีนี้ว่า ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์ แมกเวล-โบลทซ์มาน ของก๊าซ ได้นำหลักการนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีลังงานจลน์ของความร้อน ต่อมาเข้ากล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อแม่เหล็กก็ต้องไฟฟ้า โดยการทดลองการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้หับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 30,000 km/s
|
|
|
|
Kitti_CVE2
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 11:45:54 pm » |
|
กระผม นาย กิตติ จิตนันทกุล นักศึกษาคณะ วิศวกรรมโยธา sec 17 เลขที่ 8 รหัสประจำตัว 115340411113-6 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 18/01/54 เวลา 23.44 น. ณ.ที่บ้าน
เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง เกิด วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
sathian757
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 12:29:25 am » |
|
นายเสถียร ปานามะเส คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441203-9 ตอบกระทู้วันที่ 19/01/54 เวลา 00:29 สถานที่ หอพัก นวนคร สรุปว่า ในปี ค.ศ. 1860 แมกเวลได้ย้ายไปทำงานที่วิทยาลัยคิงส์ (King's College) ที่กรุงลอนดอนในตำแหน่งศาสตราจารย์ วิชาฟิสิกส์ เข้าทำงานอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 5 ปี ก็ลาออก และย้ายไปอยู่ที่เมืองเคนซิงต้น (Kensingtion) ประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ โดยแมกเวลได้ทำการ ศึกษาก๊าซที่ละชนิดที่อยู่ในภาชนะ และนอกภาชนะ จากการทดลองแมกเวลได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ชื่อ ลุดวิค โบลทซ์มาน (Ludwig Boltzmann) ได้ทำการค้นคว้าทดลอง และได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มาน ของก๊าซ (Kinetic Maxwell - Boltzmann Theory of Gas)" เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อน ขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) ในเวลาต่อมา ในปี ค.ศ. 1871 แมกเวลได้เข้าทำงานอีกครั้งหนึ่งในตำแหน่งศาสตราจารย์ควบคุมห้องทดลองของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และด้วยความนับถือในผลงานของเฮนรี่ คาเวนดิช เขาจึงได้ริเริ่มสร้างห้องทดลองคาเวนดิชขึ้นในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับคาเวนดิชห้องทดลองนี้มีชื่อว่า ห้องทดลองฟิสิกส์คาเวนดิช
|
|
|
|
rungniran
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 09:52:49 am » |
|
กระผมนายรุ่งนิรันดร์ สอนจันทร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411005-5 กลุ่ม 53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 19/01/2553 เวลา9.51 น. ที่สวนสุทธิพันธ์ ได้มีข้อคิดเห็นดังนี้ ท่านเจมส์ คลาร์ก แมเวล ได้ศึกษาในหลายสถาบันและได้ทำการค้นคว้าและทำการทดลองจนท่านมีผลงานมากมายเช่น ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และเป็นผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง 
|
|
|
|
titikron
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 09:57:57 am » |
|
นาย ฐิติกร แก้วประชา รหัส 115330411022-0 เลขที่ 17 sec 4 วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง วันที่ 19/01/54 เวลา 9.56 น. หอโฟร์บี สรุปได้ว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง ต่อมาในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
sarayut
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 09:59:20 am » |
|
นาย ศรายุทธ เที่ยงแท้ วิศวกรรมโยธา 115330411001-4 sec 04 เลขที่ 1 วันที่ 19/1/54 เวลา 09.58 น. หอพัเจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้ - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
Kotchapan
|
 |
« ตอบ #56 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 10:48:58 am » |
|
นาย คชพันธ์ พงษ์ไพร นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา 115330411048-5 เลขที่ 41 Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา วันที่ 19/01/2554 สถานที่ กิตติพงศ์แมนชั่น เวลา 10.44 น. เจมส์ คลาร์ก แมเวล (James Clark Maxwell) ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง และได้ทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ โดยแมกเวลได้ทำการ ศึกษาก๊าซที่ละชนิดที่อยู่ในภาชนะ และนอกภาชนะ จากการทดลองแมกเวลได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ชื่อ ลุดวิค โบลทซ์มาน (Ludwig Boltzmann) ได้ทำการค้นคว้าทดลองและได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มานของก๊าซ (Kinetic Maxwell - Boltzmann Theory of Gas)" เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) แมกเวลเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ผลงาน - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas) - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
kittisap
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 12:27:23 pm » |
|
กระผม นายกิตติศัพท์ ถนัดงาน นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 19 มกราคม 2554 ที่ บ้าน ซอยพรธิสาร3 เวลา 12.27 น. ความคิดเห็นว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland) เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England) เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้ 1 ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน 2 ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ 3 ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
|
|
|
Piyarat Mounpao
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 12:40:01 pm » |
|
นางสาวปิยะรัตน์ เหมือนเผ่า เลขที่ 42 รหัส115210904050-9 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาชีววิทยา กลุ่ม 02 สถานที่ ห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์ วันที่ 19/01/54 เวลา 12.40 น เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง ในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
waranya
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 02:59:09 pm » |
|
นางสาววรัญญา สิงห์ป้อม sec.02 เลขที่ 69 รหัสนักศึกษา 115310903049-0 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติ วันที่ 19/01/54 เวลา 14.56 น. ณ หอศุภมาศ
หลังจากแมกเวลจบการศึกษา เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์และได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
|
|
|
|
|