ประวัติของ เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell

[potchapon031]

นายภชพน เกตุวงศ์ คณะ วิศวกรรมโยธา sec4 เลขที่ 25 รหัส 115330411031-1 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณญธรรมา
สถานที่ กิตติพงศ์ แมนชั่น

แมกเวลจบการศึกษาขั้นต้นแล้ว เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก (Edinburg University)ในระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ที่นี่ เขาได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน (William Nikon) ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี ทำงานอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 5 ปี ก็ลาออก และย้ายไปอยู่ที่เมืองเคนซิงต้น (Kensingtion) ประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ โดยแมกเวลได้ทำการ ศึกษาก๊าซที่ละชนิดที่อยู่ในภาชนะ และนอกภาชนะ จากการทดลองแมกเวลได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ชื่อ ลุดวิค โบลทซ์มาน (Ludwig Boltzmann) ได้ทำการค้นคว้าทดลอง และได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มาน ของก๊าซ (Kinetic Maxwell - Boltzmann Theory of Gas)" เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อน ขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) ในเวลาต่อมา

[suchart]

นาย สุชาติ  สุวรรณวัฒน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ  sec.1 รหัสประจำตัว 115210441230-7 เลขที่ 31
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา วันที่ 19 มกราคม พศ.2554  ที่หอพักมณีโชติ เวลา 23.30น.
    เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ
ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง
    เกิด        วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
    เสียชีวิต    วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
    ผลงาน    - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
               - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
               - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

[Monthon]

กระผม นายมณฑล รินชุมภู นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441206-2 เลขที่ 16 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 00.23น.  สถานที่  บ้านพักที่วังน้อย 


สรุปได้ว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล  ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง
ในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที
   



   



   

[sathian757]

นายชัยยันต์ นุยืนรัมย์ วิศวกรรมอุสาหการ-การจัดการ(สมทบ) รหัส 115340441215-3 Sec 17 เลขที่ 21  วันที่ 20/01/54 เวลา 0.22 สถานที่ ห้องนวนคร
 เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell   เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เป็นผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง  ต่อมาในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[Pratanporn]

นายประทานพร พูลแก้ว  นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  สาขาวิชาสถิติประยุกต์  sec 02 เลขที่ 75 รหัส 115310903057-3 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20/01/2554 เวลา 06:17  สถานที่ บ้านของตนเอง
แมกเวลได้ทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้า แมกเวลกล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไปโดยใช้ความเร็วคงที่จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[Chanon_non26]

นายชานนท์ พงศ์ไพโรจน์ เลขที่ 52 sec 02 id:;115310903029-2 นศ.คณะวิทยาศษสตร์และเทคโนโลยี สถิติประยุกต์ เวลา 10.03 น. วันที่ 20-1-54 มทร.ธัญบุรี สรุปได้ว่า เจมส์ คลาร์ก แมเวล  ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง
ในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[nachaya]

ผมนาย ณชย ประสพเนตร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
sec 4 เลขที่  49
เข้ามาตอบกระทู้วันที่   20   มกราคม 2554 เวลา  11.59  น. ที่ บ้าน
เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา

     เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ
ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง
     เจมส์ คลาร์ก แมเวล เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
     เสียชีวิตวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
     ผลงาน  - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
              - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
              - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

[thanathammarat]

นายปรัชญาพล ธนาธรรมรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่ 14 รหัสประจำตัว115340441204-7 ตอบกระทู้วันที่ 20-01-2554 เวลา 12:14 น. สถานที่ บริษัท Siam lemmerz
เนื้อหาสรุปได้ว่า...
เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎี
- ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
- ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
- ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้ากล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กัน โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่

[PoxyDonZ]

นาย สุรศักดิ์ ด้วงใจจิตร รหัส 115330411036-0 วิศวกรรมโยธา เวลา 12.37 am. วันที่ 20 ม.ค. 54 สถานที่ หอร์ โฟร์บี 2


         เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell   เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
ผลงาน   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
             - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
             - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
         เป็นผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง  ต่อมาในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[namtan]

ดิฉัน นางสาวณัชชา ธิติบุญจันทร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอาหาร
sec02 รหัสประจำตัว115210417055-8 เลขที่ 27
เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา
เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่หอพักโอนิน3 เวลา 12.41น.
ความรู้จากเนื้อหาที่ได้คือ หลังจากแมกเวลจบการศึกษา  เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์และได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน  ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี    แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[00sunisa00]

น.ส.สุนิศา   ชมมิ   สาขาสถิติ   sec.2   เลขที่ 46   รหัส 115310903001-1   วันที่ 20/1/2554   เวลา 13.25 น.   ณ ห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์
           แมกเวลได้ทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้า แมกเวลกล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไปโดยใช้ความเร็วคงที่จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[wirinya]

นางสาววิรินญา เกิดฉ่ำ 
นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ สถิติประยุกต์ เลขที่ 57   
รหัสประจำตัว  115310903034-2 เรียนกับอาจารย์  จรัส บุณยธรรมา

เข้ามาตอบกระทู้วันที่  20  เดือน มกราคม   พ.ศ.  2554   ที่หอนำรง  เวลา.  13. 41 น.

มีความเห็น   
ประวัติของ เจมส์ คลาร์ก แมเวล เจมส์ คลาร์ก แมเวล  ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสงในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[Jantira]

นางสาวจันทิรา รัตนพันธุ์  นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  สาขาสถิติประยุกต์  sec2  รหัสประจำตัว 115310903042-5 เลขที่64 วันที่20/01/2554 เวลา13.45น. ณbanoffee
สรุป
แมกเวลจบการศึกษาขั้นต้นแล้ว เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก (Edinburg University)ในระหว่างที่เขาศึกษาอยู่ที่นี่ เขาได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน (William Nikon) ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี ทำงานอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 5 ปี ก็ลาออก และย้ายไปอยู่ที่เมืองเคนซิงต้น (Kensingtion) ประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ โดยแมกเวลได้ทำการ ศึกษาก๊าซที่ละชนิดที่อยู่ในภาชนะ และนอกภาชนะ จากการทดลองแมกเวลได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ชื่อ ลุดวิค โบลทซ์มาน (Ludwig Boltzmann) ได้ทำการค้นคว้าทดลอง และได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มาน ของก๊าซ (Kinetic Maxwell - Boltzmann Theory of Gas)" เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อน ขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) ในเวลาต่อมา

[tongchai]

ผมนาย ธงชัย ฉิมสุด นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) sec 17 รหัส 115340441240-1  เข้ามาตอบกระทู้วันที่  20 มกราคม 2554 ณ หอพักโพธิ์ทอง  เวลา 14.10 น

ในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็ก
กับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[sarayut sringam]

กระผมนายศรายุธ สีงาม  นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4
รหัส 115330441201-4
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา
เข้ามาตอบกระทู้วันที่  20 มกราคม 2554 ที่ ตึกวิทยบริการ    เวลา 14.30น
มีความคิดเห็นว่า
หลังจากแมกเวลจบการศึกษา  เขาได้เข้าเรียนต่อวิชาฟิสิกส์และได้รู้จักกับนักฟิสิกส์ท่านหนึ่ง วิลเลี่ยม นิคอน  ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแสง เพื่อใช้สำหรับการถ่ายภาพเขาได้ประดิษฐ์ปริซึมแบบพาราโบลาขึ้นมา แมกเวลได้พบว่าแม่สีของแสงมี 3 สี ได้แก่ แสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งทฤษฎีนี้ได้นำมาใช้เกี่ยวกับการอัดภาพสี    แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[somphoch]

นายสมโภชน์  จิกกรีนัย นักศึกษาภาควิชาวิศวอุตสาหการ-การจัดการ รหัส115340441247-6 sec.17 เลขที่ 34 เรียนกับอาจารย์จรัส บุญยธรรมมา ที่หอ เวลา 14.50น   วันที่ 20 มกราคม 2554
   เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell   เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
 เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ
 ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้
   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน
   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ
   - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

[KanitaSS]

นางสาวคณิตา สุดจิตร์ นศ.คณะวิทยาศาสตร์สาขาสถิติประยุกต์ Sec2 รหัส115310903030-0เลขที่53เข้าทดสอบวันที่20/01/54 เวลา14.55 น.สถานที่บาน็อฟฟี่ เพลส
สรุปได้ว่า  เจมส์ คลาร์ก แมเวล ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ
ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง
     เจมส์ คลาร์ก แมเวล เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
     เสียชีวิตวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
     ผลงาน  - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
              - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
              - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

[Suphakorn]

กระผมนาย สุภากร  หงษ์โต นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441211-3  Sec.04
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 20 มกราคม 2554  เวลา 15.09 น. ที่หอพัก gooddream
มีความคิดเห็นว่า
เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell   เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
 เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ
 ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้
   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน
   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ
   - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 
 

[Nhamtoey]

นางสาวเรวดี    จันท้าว  ภาควิชาวิศวกรรมโยธา   รหัส 115330411006-3  เลขที่6  sec04 ตอบกระทู้เมื่อวันที่ 20/01/2554  เวลา 15.47 น. ที่ห้องสมุด มทร.ธัญบุรี
     เขาได้เข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์ เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ แมกเวลได้เสนอความเห็นว่าวงแหวนของดาวเสาร์ประกอบไปด้วยดาวเคราะห์น้อย จำนวนมากมายทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมตัวกันจนมีความหนาแน่น
     ต่อมาเขาได้ทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ และได้สรุปทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มานของก๊าซ เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนและค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน ในเวลาต่อมา
     ต่อมาเขาได้การทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวลกล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ ไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[Thamanoon]

 ผมนายธรรมนูญ พุทธวงษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411009-7 เลขที่ 9 sec 04
เรียนกับ อ.จรัส บุณยธรรมา    เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20/1/2554 ที่ บ้านเช่า ซอยอีสเทิร์น  เวลา 17.55 น.
มีความเห็นว่า
เจมส์ คลาร์ก แมกซ์เวลล์
เกิด        วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
ผลงาน   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
             - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
             - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
        ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ
ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง

 

[opisit]

กระผม นาย พิสิทธิ์ สอนเทศ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441207-0
เรียนกับอาจารย์ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรม
เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่บ้าน เวลา 18:02 น.
มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้ากล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า
ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป
โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็ก  กับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน
ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[sangtawee]

นายแสงทวี  พรมบุตร  นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์  สาขา วิศวกรรมโยธา เลขที่ 29 sec.4   
รหัสประจำตัว  115330411035-2
ตอบกระทู้วันที่  20/01/54   ที่ห้องสมุด มทร.  เวลา.  18.43 น
มีความเห็น   ประวัติของ เจมส์ คลาร์ก แมเวล
เจมส์ คลาร์ก แมเวล  ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสงในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[jackmaco]

นายธีรพงษ์ ม้วนทอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17   รหัสประจำตัว115340441211-2
ตอบกระทู้วันที่ 20/01/54  เวลา 19:07 น. สถานที่ หอพัก เอื้อมเดือน

สรุป :
เกิด        วันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เสียชีวิต  วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
ผลงาน      - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
             - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
             - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง

 

[ณัฐพงษ์ สันทะ]

กระผม นาย ณัฐพงษ์  สันทะ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมอุตสาหการ - การจัดการ sec 4 รหัสประจำตัว 115330441216-2
เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา
เข้ามาตอบกระทู้วันที่_20  เดือน_01  พศ_2554   ที่(ชื่อหอพัก/ชื่อบ้านพัก)_ประสงค์  เวลา_19.13
มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ 

เจมส์ คลาร์ก แมเวล : James Clark Maxwell   เกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก (Edinburg) ประเทศสก็อตแลนด์ (Scotland)
เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
 เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ
 ได้สรุปผลงานทางทฤษฎีได้ดังนี้
   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน
   - ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ
   - ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

[Thaweesak]

นาย ทวีศักดิ์ ธนทรัพย์ทวี  วิศวกรรมโยธา  รหัส 115330411008-9 sec04 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20/01/54 เวลา 20.05 น. ที่หอพัก มาลีแมนชั่น
 
เจมส์ คลาร์ก แมเวล (James Clark Maxwell) ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถ
ผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง และได้ทำการทดลองเกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของการเคลื่อนที่ ความเร็ว และทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ โดยแมกเวลได้ทำการ
ศึกษาก๊าซที่ละชนิดที่อยู่ในภาชนะ และนอกภาชนะ จากการทดลองแมกเวลได้ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับพลังงานจลน์ของก๊าซขึ้น แต่ด้วยในขณะนั้นมีนักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ชื่อ ลุดวิค โบลทซ์มาน (Ludwig Boltzmann) ได้ทำการค้นคว้าทดลองและได้ผลสรุปเช่นเดียวกับแมกเวล จึงมีชื่อเรียกทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์นี้ว่า "ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์แมกเวล - โบลทซ์มานของก๊าซ (Kinetic Maxwell - Boltzmann Theory of Gas)" เข้าได้นำหลังการเดียวกันนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat) แมกเวลเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
ผลงาน
- ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
- ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
- ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
 

[bear]

นาย อุดม แก้วชู 115330411034-5 เลขที่28  sec4 วิศวกรรมโยธา เวลา 20.29 หอพักมณีโชติ
เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปทฤษฎีนี้ว่า ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์ แมกเวล-โบลทซ์มาน ของก๊าซ ได้นำหลักการนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีลังงานจลน์ของความร้อน ต่อมาเข้ากล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อแม่เหล็กก็ต้องไฟฟ้า โดยการทดลองการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้หับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 30,000 km/s
 
 
 

[Meena]

นายพสิษฐ์  แดงอาสา   นศ.วิศวกรรมโยธา  รหัส 115330411011-3  Sec 4    ณ บ้านเลขที่ 231/135

เจมส์ คลาร์ก แมเวล  ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสงในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[ponyotha]

ผมนายวีรพล  นุ่มน้อย รหัส115330411014-7 sec.4 เลขที่11 วิศวกรรมโยธา วันที่20/1/54 เวลา 20.34 น. อยู่เจริญแมนชั่น
   เข้าได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยมากมาย และที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปทฤษฎีนี้ว่า ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์ แมกเวล-โบลทซ์มาน ของก๊าซ ได้นำหลักการนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีลังงานจลน์ของความร้อน ต่อมาเข้ากล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อแม่เหล็กก็ต้องไฟฟ้า โดยการทดลองการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้หับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตราส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 30,000 km/s
 
 

 

[wuttipong]

กระผมนายวุฒิพงษ์ สุขะ เลขที่ 23 วิศวกรรมโยธา sec.04 รหัส 115330411029-5 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 20/1/2554 เวลา 20:40 น. สถานที่หอพัก FourB5
สรุปได้ว่า
 เจมส์ คลาร์ก แมเวล  ผู้ค้นพบทฤษฎีความร้อนซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียง ให้เขามากที่สุดนอกจากนี้เขายังค้นพบว่าแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถผ่านอีเทอร์ได้ โดยมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง
ในปี ค.ศ. 1864 แมกเวลได้เริ่มการทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้าแมกเวล กล่าวว่า ไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อมีแม่เหล็กก็ต้องมีไฟฟ้า ดังนั้นแมกเวลจึงใช้หลักการนี้สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้น โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แผ่รัศมีออกไป โดยใช้ความเร็วคงที่ จากการคำนวณของแมกเวลที่เกิดจากการนำอำนาจแม่เหล็กกับหน่วยไฟฟ้ามาหาอัตรา ส่วนกัน ผลปรากฏว่าความเร็วที่เหมาะสม คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

[civil kang]

นาย สราวุฒิ ดีดวงพันธ์ 115330411028-7 sec 4 วิศวกรรมโยธา 20/1/2554  20:45
 เขาได้ทำงานและเข้าร่วมกับคณะดาราศาสตร์เพื่อค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของวงแหวนของดาวเสาร์ ดาวเสาร์ประกอบด้วยดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากมาย รวมกันจนมีความหนาแน่น ต่อมาเขาได้ทำการทดลองที่เกี่ยวกับก๊าซ ในเรื่องของเคลื่อนที่ความเร็วและทิศทางการฟุ้งกระจายของก๊าซ ได้สรุปทฤษฎีนี้ว่า ทฤษฎีแห่งพลังงานจลน์ แมกเวล-โบลทซ์มาน ของก๊าซ ได้นำหลักการนี้มาทดลองเกี่ยวกับความร้อนขึ้นบ้าง และค้นพบ ทฤษฎีลังงานจลน์ของความร้อน ต่อมาเข้ากล่าวว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กมีความสัมพันธ์กันเมื่อแม่เหล็กก็ต้องไฟฟ้า