ฟิสิกส์ราชมงคล
|
 |
« เมื่อ: ธันวาคม 12, 2009, 02:12:24 pm » |
|
"It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different ____ ____ ____ ____ a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to ___ ___ ___, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the ___ ___ ___, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ___ ___ ___ and vice versa. The mass and energy were in fact ___, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." ท่านได้อธิบายเป็นภาษาอังกฤษ มีบางประโยคและบางคำ ในข้อความข้างบนหายไป ให้นักศึกษาที่เรียนฟิสิกส์ 2 ฟังเสียงจริงของท่าน เติมประโยคที่หายไปให้เต็ม และแปลความหมายทั้งหมด คลิกฟังเสียง
|
|
|
|
|
sutin
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 03:14:05 pm » |
|
นาย สุทิน ศรีวิลัย รหัส 115340441222-9 เลขที่ 25 sec 17 สถานที่ บ.เจเอสออโตเวิร์ค วันที่ 21/1/2554 เวลา 15.14 It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
watchaiza
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 05:48:24 pm » |
|
นายธวัชชัย พลรักษ์ สาขาวิศวกรรมโยธา sec.04 เลขที่ 34 เข้ามาโพสท์ วันที่ 21/01/54 เวลา 17.48 น. สถานที่ บ้าพฤกษา It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
aecve
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 21, 2011, 10:04:05 pm » |
|
กระผม นายปรัชญา พรมอารักษ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง เลขที่ 26 sec. 4 รหัสประจำตัว 115330411032-9 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 21 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่ หอพักโฟ บี 4 เวลา. 22.04 น มีความเห็น ไอน์สไตน์อธิบายความสัมพันธ์ของมวลกับพลังงาน It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
aimz
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 02:59:58 pm » |
|
นางสาว สุภวรรณ เดชปรีดาผล รหัส 115110903068-4 sec.02
เข้าตอบกระทู้วันที่ 22 01 54 เวลา 14:59น. สถานที่ วิทยบริการ
สรุปว่า...
It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
mukkie
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 04:32:07 pm » |
|
นางสาว ปาณิศา ไพรสยม sec.2 เลขที่73 รหัสนักศึกษา 115310903054-0 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติ ตอบกระทู้วันที่22ม.ค.54 เวลา16.29 ที่บ้านตัวเอง "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่า เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
rungniran
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 04:43:31 pm » |
|
ผมนายรุ่งนิรันดร์ สอนจันทร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411005-5 sec 04 เลขที่ 5 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 23/01/54 เวลา 16.41 pm ที่สวนสุทธิพันธ์ สรุปได้ว่า เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932 
|
|
|
|
Nueng
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 08:24:14 pm » |
|
นางสาวสมฤดี สอนชอุ่ม เลขที่ 19 รหัส 115110903066-8 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 20.23 น. ณ ร้านอินเตอร์เน็ต สรุปได้ว่า .... It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
pool
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 09:24:06 pm » |
|
นางสาวดาวประกาย แก้วเรือง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมีสิ่งทอ รหัส 115210452059-6 SEC 2 เลขที่ 37 เรียนกับ อาจารย์จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้ วันที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 21.24 น. ที่บ้าน มีความเห็นในกระทู้ว่า "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่าเป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
Jutharat
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 09:31:09 pm » |
|
นางสาวจุฑารัตน์ นาวายนต์ รหัส 115210417058-2 เลขที่ 28 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 21.30 ณ หอ RS เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
THANAKIT
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 10:02:26 pm » |
|
นายธนกฤต เฉื่อยฉ่ำ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัส 115340441248-4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่วันที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 22.02 น. สถานที่ บ้าน "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." 
|
|
|
|
Jutharat
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 10:45:40 pm » |
|
นางสาวจุฑารัตน์ นาวายนต์ รหัส 115210417058-2 เลขที่ 28 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 23 มกราคม 2554 เวลา 22.50 ณ หอ RS เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
amnuay cve2
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 12:10:46 am » |
|
 กระผมนาย อำนวย เกิดโภคา นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา SEC 17 เลขที่ 10 รหัส 115340411116-9 อาจารย์ผู้สอน ผศ. จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 24/1/2554 ที่บ้าน เวลา 00.10 น.  มีความเห็นในกระทู้ว่า "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่าเป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
pichet
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 09:53:39 pm » |
|
กระผม นายพิเชษฐ์ จันทร์โสภา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec 4 รหัสประจำตัว 115330411044-4 เลขที่ 37 วันที่ 24/01/54 เวลา 21.57 น. เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา มีความเห็น ไอน์สไตน์อธิบายความสัมพันธ์ของมวลกับพลังงาน It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
opisit
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 10:26:35 am » |
|
กระผม นาย พิสิทธิ์ สอนเทศ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441207-0 เรียนกับอาจารย์ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรม เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 25 เดือน มกราคม พ.ศ. 2553 ที่บ้าน เวลา 10:23 น. มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ มันตามมาจากทฤษฎีพิเศษของความสัมพันธ์ว่ามวลและพลังงานทั้งคู่ แต่แตกต่างกันอาการของสิ่งเดียวกัน unfamilar ความคิดคล้าย ๆ กับความคิดมีค่าเฉลี่ยเป็น นอกจากสมการ E มีค่าเท่ากับเอ็มซี - squared ซึ่งพลังงานจะถูกพักเท่ากับมวลคูณด้วยกำลังสองของความเร็วของแสงพบว่าปริมาณที่น้อยมากของมวลอาจ ถูกแปลงเป็นจำนวนเงินที่มีขนาดใหญ่มากของพลังงานและ ในทางกลับกัน มวลและพลังงานเทียบเท่าอยู่ใน ความเป็นจริงไปตามสูตรที่กล่าวถึงก่อน นี้แสดงให้เห็นโดย Cockcroft และวอลตันในปี 1932, การทดลอง
|
|
|
|
heetoon
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 03:25:56 pm » |
|
นายราชันย์ บุตรชน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411047-7 sec 04 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 25/01/54 เวลา 15.30 ที่หอ Four B4
สรุปได้ว่า เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
sompol w. 53444 INE
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: มกราคม 25, 2011, 10:07:42 pm » |
|
  กระผม นายสมพล วงศ์ไชย คณะ วิศวกรรมอุตสาหการ sec 17 รหัสนักศึกษา 115340441208-8 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้าตอบกระทู้วันที่ 25 เดือน มกราคม พศ.2554 ที่ จันทร์เพ็ญอพาร์ทเมนท์ เวลา 22:07 เสียงจากไอน์สไตน์เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
titikron
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 08:20:18 pm » |
|
นาย ฐิติกร แก้วประชา รหัส 115330411022-0 เลขที่ 17 sec 4 วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง วันที่ 26/01/54 เวลา 20.18 น. หอโฟร์บี สรุปได้ว่า เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
Sunti
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 08:30:14 pm » |
|
Sunti Civil นายสันติ บัวงาม นศ.วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411021-2 Sec 4 เลขที่ 16 ตอบกระทู้วันที่ 26/01/54 เวลา 20:29 น. ณ. หอป้าอ้วน กล่าวว่าเป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
somphoch
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 10:13:07 pm » |
|
นายสมโภชน์ จิกกรีนัย sec.17 เลขที่34 รหัสนักศึกษา 115340441247-6 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอุตสาหการ-การจัดการ ตอบวันที่ 26/01/54 เวลา22.20น. ที่บ้าน เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
rungsan
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 09:28:58 am » |
|
นาย รังสรรค์ พัธกาล 115340441243-5 sec 17 เลขที่32 วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ วันที่ 27/1/54 เวลา 9.28 น. สถานที่บ้าน "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่า เป็น ไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
sarayut sringam
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 03:02:42 pm » |
|
กระผมนายศรายุธ สีงาม นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4 รหัส 115330441201-4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 27 มกราคม 2554 ที่ ตึกวิทยบริการ เวลา 15.02น มีความคิดเห็นว่า "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่าเป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
Pathomphong
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 03:32:13 pm » |
|
นายปฐมพงศ์ พูนปก วิศวกรรมโยธา sec 04 รหัสประจำตัว 115330411043-6 เลขที่ 36 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา วันที่ 27/01/54 เวลา 15.31 น. ที่หอลากูน สรุปได้ว่า ไอน์สไตน์อธิบายความสัมพันธ์ของมวลกับพลังงาน "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the ความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
werayut rmutt
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 04:40:48 pm » |
|
นายวีรยุทธ บุญใหญ่ รหัส115330411052-7 เลขที่ 45 sec.4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา เข้าตอบกระทู้เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2554 เวลา 16.35 น. ณ ตึกวิทยะบริการ
It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
ศราวุธ พูลทรัพย์
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 07:30:39 pm » |
|
กระผมนายศราวุธ พูลทรัพย์ นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411042-8 เลขที่ 35 sec 04 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้นี้ที่หอลากูล วันที่ 27/1/2554 เวลา 19.30 น มีความเห็น ไอน์สไตน์อธิบายความสัมพันธ์ของมวลกับพลังงาน It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different อาการของสิ่งเดียวกัน a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-ยกกำลังสอง, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of theความเร็วของแสง, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large ประริมาณของพลังงาน and vice versa. The mass and energy were in fact เท่ากัน, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally."
|
|
|
|
bankclash032
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 07:35:11 pm » |
|
กระผม นาย สุริยพงศ์ ทองคำ นักศึกษาคณะวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 17 เลขที่ 24 รหัสประจำตัว115340441221-1 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 27/1/54 เวลา 19.35 น. ณ.หอประสงค์ สรุปได้ว่า "It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่าเป็น ไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
รัฐพล เกตุอู่ทอง
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 08:24:51 pm » |
|
กระผม นายรัฐพล เกตุอู่ทอง นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441229-4 เลขที่ 26 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 27 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 20.21 น. สถานที่ หอพักเฉลิมพล
It followed from the special theory of relativity that mass and energy are both but different manifestations of the same thing--a somewhat unfamilar conception for the average mind. Furthermore, the equation E is equal to m c-squared, in which energy is put equal to mass, multiplied by the square of the velocity of light, showed that very small amounts of mass may be converted into a very large amount of energy and vice versa. The mass and energy were in fact equivalent, according to the formula mentioned before. This was demonstrated by Cockcroft and Walton in 1932, experimentally." แปลได้ว่า เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
Monthon
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 08:44:37 pm » |
|
กระผม นายมณฑล รินชุมภู นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441206-2 เลขที่ 16 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 27 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 20.44น. สถานที่ บ้านพักที่วังน้อย
สรุปได้ว่า เป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932
|
|
|
|
attakron006@hotmail.com
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 01:28:41 am » |
|
กระผม นาย อรรถกร จิตรชื่น นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441217-9 เลขที่ 22 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 28เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 1.28 น. สถานที่ บ้านฟ้ารังสิต  แปลได้ว่าเป็นไปตามทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ที่มวลและพลังงานทั้งคู่อยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่แสดงออกแตกต่างกันออกไป นับเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับสติปัญญาในระดับธรรมดา ยิ่งกว่านั้นสมการ อี เท่ากับเอ็มซียกกำลังสอง ในพลังงานนั้นทำให้เท่ากับมวล แล้วคูณด้วยความเร็วแสงยกกำลังสอง แสดงให้เห็นถึงมวลจำนวนเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้ หรือในทางกลับกันพลังงานมหาศาลก็เปลี่ยนเป็นมวลเพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน มวลและพลังงานมีความสมมูล (มีค่าเท่ากัน) ตามสูตรที่อ้างถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งค็อกครอฟท์กับวอลตันเคยทำการทดลองเร่งอนุภาคไว้เมื่อปี 1932 
|
|
|
|
|